๙๙    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๑๐๑
         บทว่า  อทานสีลา  คือ  มีปกติไม่ให้  ได้แก่  มีจิตใจน้อมไปเพื่อไม่ให้
อธิบายว่า  ไม่ยินดีในการจ่ายแจก.
         หลายบทว่า  น  จ เทนฺติ   กสฺสจิ  ความว่า ก็เพราะเหตุที่มีปกติไม่
ให้นั้น       แม้จะเป็นผู้ถูกขอก็ไม่ยอมให้อะไรแก่ใคร ๆ   คือว่าเป็นเช่นกับด้วย
มนุษย์ในสกุลอทินนปุพพกะพราหมณ์    ย่อมจะเกิดเป็นนิชฌามตัณหิกเปรต
ในสัมปรายภพ.
         แต่อาจารย์บางพวกกล่าวว่า  อาทานสีลา  ดังนี้ก็มี ความว่า  เป็นผู้มี
ปกติรับอย่างเดียว  แต่ก็ไม่ยอมให้อะไร ๆ แก่ใคร ๆ.
         บาทคาถาว่า  เอสามคนฺโธ  น  หิ  มํสโภชนํ  ความว่า  ผู้ศึกษาพึง
ทราบว่ากลิ่นดิบที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงเจาะจงบุคคลทั้งหลายด้วยคาถา
นี้มี ๘ ชนิด   ด้วยอรรถตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้แล้วในตอนต้นอื่นอีก
คือ   ความเป็นผู้มีรสที่เศร้าหมอง  ๑  ความทารุณ  ๑  หน้าไหว้หลังหลอก ๑
ความเป็นผู้คบมิตรชั่ว  ๑  การไร้ความเอ็นดู  ๑   การถือตัวจัดหนึ่ง  ๑  การมี
ปกติไม่ให้  ๑   และการไม่สละ ๑   เนื้อและโภชนะให้ใช้กลิ่นดิบเลย.
         พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นตรัส ๒ พระคาถาด้วยเทศนาเป็นบุคลาธิษ-
ฐานอย่างนี้แล้ว   ก็ได้ทรงทราบถึงการอนุวัตรตามอัธยาศัยของดาบสนั้นอีก  จึง
ได้ตรัสพระคาถา ๑ (คาถา) ด้วยเทศนาที่เป็นธรรมาธิษฐาน.
         ความโกรธในพระคาถานั้น     ผู้ศึกษาพึงทราบโดยนัยที่ข้าพเจ้ากล่าว
ไว้แล้วในอุรคสูตร   ความมัวเมาแห่งจิต     มีประเภทดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสไว้ในวิภังค์โดยนัยว่า   ความเมาในคติ    ความเมาในโคตร    ความเมาใน
ความไม่มีโรค  เป็นต้น   ชื่อว่า  มโท  ความเมา.
หน้า ๑๐๐