๑๐๓    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๑๐๕
         บทว่า  ผรุสา  ได้แก่  มีวาจาหยาบคาย.
         บทว่า  อนาทรา   ได้แก่ผู้เว้นจากความเอื้อเฟื้ออย่างนี้ว่า  พวกเรา
จักไม่กระทำในบัดนี้   พวกเราเห็นบาปนี้   จักงดเว้น   ดังนี้.
         บาทคาถาว่า  เอสามคนฺโธ   น  หิ   มํสโภชนํ  ความว่า  กลิ่นนี้
ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงด้วยคาถานี้  ซึ่งตั้งอยู่แล้วในบุคคลทั้งที่ข้าพเจ้า
กล่าวไว้แล้ว    และยังไม่ได้กล่าวโดยกาลก่อน   เป็นต้นว่า   การฆ่า    การตัด
และการจองจำ  ชื่อว่า   ปาณาติบาต  ดังนี้.
         บัณฑิตพึงทราบ   กลิ่นดิบ  ๖  ชนิด  คือ    ความไม่สำรวมในสัตว์
ทั้งหลาย ๑  การเบียดเบียนสัตว์เหล่าอื่น ๑  ความเป็นผู้ทุศีล ๑    ความเป็นผู้
ร้ายกาจ ๑    ความเป็นผู้หยาบคาย ๑    ความเป็นผู้ไม่เอื้อเฟื้อ ๑     เนื้อและ
โภชนะไม่ชื่อว่ากลิ่นดิบเลย  สมจริงดังคำที่ท่านกล่าวไว้ในตอนต้นว่า   ข้อนั้น
ท่านหาได้กล่าวไว้อีกด้วยเหตุทั้งหลาย   มีอาทิอย่างนี้ว่า    เพื่อปรารถนาจะฟัง
เพื่อการกำหนด  เพื่อกระทำให้มั่นคง  ไม่.
         ก็เพราะเหตุนั้นแล  พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงได้ตรัสถึงเนื้อความนี้ไว้ข้าง
หน้า     พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ถึงฝั่งแห่งมนต์   ได้ตรัสบอกเนื้อความนี้อย่างนี้
บ่อย  ๆ  ชื่อว่าให้ผู้อื่นทราบเนื้อความนั้น.
         บาทคาถาว่า  เอเตสุ   คิทฺธา  วิรุทฺธาติปาติโน  ความว่า  กำหนัด
แล้ว  ด้วยความกำหนัดในสัตว์เหล่านั้น  โกรธแล้วด้วยโทสะ   ไม่เห็นโทษด้วย
โมหะ  และฆ่าสัตว์ด้วยการประพฤติผิดในสัตว์ทั้งหลายบ่อย  ๆ
หน้า ๑๐๔