| ถามว่า เมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านก็ทิ้งความเป็นผู้ไม่บริโภคเสีย ? |
| ตอบว่า ข้อนี้หาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะว่าการทรมานตน ที่เหลือ |
| ที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้แล้วแม้ทั้งหมด ย่อมถึงการสงเคราะห์ในคำนี้ว่า เย วาปิ |
| โลเก อมรา พหู ตปา เพราะเหตุที่ท่านสงเคราะห์เข้าด้วยการย่างกิเลส |
| เพื่อปรารถนาความเป็นเทวดา. |
| ความเป็นคนเปลือยกาย ชื่อว่า นคฺคิยํ. |
| ความเป็นคนโล้น ชื่อว่า มุณฺฑิยํ. |
| การเกล้าชฎาและการเป็นผู้หมักหมมด้วยธุลี ชื่อว่า ชฎาชลฺลํ. |
| เล็บและหนังเสือ ชื่อว่า ขราชินานิ. |
| การบำเรอไฟ ชื่อว่า อคฺคิโหตสฺสุปเสวนา. |
| ความเศร้าหมองทางกายอันเป็นไปแล้ว เพื่อปรารถนาความเป็น |
| เทวดา ชื่อว่า อมรา. |
| บทว่า พหู ได้แก่ เป็นอเนก โดยต่างด้วยการนั่งกระโหย่ง เป็นต้น |
| การย่างกิเลสทางกาย ชื่อว่า ตปา. |
| เวททั้งหลาย ชื่อว่า มนฺตา. |
| กรรม คือการบูชาไฟ ชื่อว่า อาหุติ. |
| ยัญ ที่ชื่อว่า อัสวเมธ เป็นต้น และการซ่องเสพฤดู ชื่อว่า |
| ยญฺมุตูปเสวนา. |
| การซ่องเสพสถานที่ร้อน ในฤดูร้อน การซ่องเสพรุกขมูล ในฤดูฝน |
| การซ่องเสพคือการเข้าไปสู่ชลาลัย ในฤดูหนาว ชื่อว่า การซ่องเสพฤดู. |