๑๑๖    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๑๑๘
กาลที่ตนหิว  อธิฐานองค์อุโบสถทั้งหลาย  แล้วเจริญพรหมวิหาร  ๔  อยู่  ชื่อ
ว่า อสฺสมุฏฺ€ิกา  ดาบสจำพวก  อสฺสมุฏฺ€ิกา  เหล่านั้น  ดีกว่าดาบสจำพวก
อนคฺคิปกฺกิกา
         พวกดาบสผู้ไม่ถือก้อนหินเท่ากำมือเป็นต้น  ใช้ฟันแทะซึ่งเปลือกไม้
จากต้นไม้ที่ประสบเข้าในเวลาหิว  อธิษฐานองค์อุโบสถ  เจริญพรหมวิหารอยู่
ชื่อว่า  ทนฺตลุยฺยกา  ดาบสจำพวก  ทนฺตลุยฺยกา  เหล่านั้น  ดีกว่าดาบส
จำพวก  อสฺสมุฏฺ€ิกา.
         พวกดาบสซึ่งอาศัยสระที่เกิดเอง  (เช่นหนองบึงเป็นต้น)  หรือไพรสณฑ์
อยู่  รากไม้อันใดมีรากแห่งภิงสะ  (เหง้าบัว)  เป็นต้น  ซึ่งมีอยู่ในสระนั้น  หรือ
ไม้อันใด  ซึ่งมีอยู่ในเวลามีดอกในราวป่า  หรือผลไม้อันใดซึ่งมีอยู่ในราวป่า
ในเวลามีผล  ก็เคี้ยวกินรากดอกและผลนั้นนั่นเอง  เมื่อดอกและผลไม่มี  ก็
เคี้ยวกินโดยที่สุดแม้สะเก็ดของต้นไม้ในราวป่านั้น  แต่ก็ไม่ยอมไปในที่อื่น
เพื่อประโยชน์แก่อาหารเลย  ได้กระทำการอธิฐานองค์อุโบสถ  และเจริญ
พรหมวิหารอยู่  ชื่อว่า  ปวตฺตผลิกา  ดาบสจำพวก  ปวตฺตผลิกา  เหล่านั้น
ดีกว่าดาบสจำพวก  ทนฺตลุยฺยกา.
         พวกดาบสที่เคี้ยวกินใบไม้ที่ตกที่พื้นดินอย่างเดียว  ชื่อว่า วณฺฎ-
มุตฺตกา  คำที่เหลือเป็นเช่นกับในก่อนนั้นเอง  ดาบสจำพวก  วณฺฎมุตฺตกา
เหล่านั้นประเสริฐกว่าดาบสทุกจำพวก.
         ส่วนพราหมณ์กุลบุตรนี้ดำริว่า  เราจักบรรพชา  บรรพชาที่เลิศใน
บรรดาดาบสพรรพชาทั้งหลาย  (การบวชเป็นดาบสทั้งหลาย)  ดังนี้แล้วก็
หน้า ๑๑๗