| ๑. มิตรเช่นไรไม่ควรคบ ๒. มิตรเช่นไรควรคบ |
| ๓. ความพยายามเช่นไรควรประกอบ ๔. รสอะไรเลิศกว่ารสทั้งหลาย |
| ดาบสนั้นพาปัญหาเหล่านั้นแล้ว มุ่งหน้าไปยังมัชฌิมประเทศ เดินไป |
| ถึงเมืองสาวัตถีโดยลำดับแล้ว เข้าไปยังพระเชตวัน แม้พระผู้มีพระภาคเจ้า |
| ก็ประทับนั่งบนอาสนะ เพื่อแสดงพระธรรมเทศนา ในสมัยนั้นอยู่ทีเดียว เขา |
| เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วไม่ยอมไหว้ ได้ยืนอยู่ ณ ส่วนข้างหนึ่ง พระผู้มี |
| พระภาคเจ้าตรัสคำที่บันเทิงใจ โดยนัยว่า ท่านฤาษี ท่านสบายดีหรือ ดังนี้เป็น |
| ต้น แม้ดาบสนั้นก็แสดงความชื่นชมตอบ โดยนัยว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ |
| ข้าพระองค์สบายดี (พอทนได้) ดังนี้แล้วจึงคิดว่า ถ้าหากท่านผู้นี้จักเป็นพระ |
| พุทธเจ้าไซร้ เมื่อเราทูลถามปัญหาด้วยใจ พระองค์ก็จะทรงแก้ด้วยวาจา ดัง |
| นี้ แล้วจึงทูลถามปัญหาเหล่านั้นกะพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยใจเท่านั้น พระผู้มี |
| พระภาคเจ้าอันพราหมณ์ทูลถามแล้ว เพื่อจะแก้ปัญหาข้อต้นก่อน จึงทรงเริ่ม |
| ว่า หิรินฺตรนฺตํ เป็นต้น แล้วจึงตรัสอีกสองคาถาครึ่ง. |
| เนื้อความแห่งพระคาถานั้น พึงทราบดังนี้ :- |
| บทว่า หิรินฺตรนฺตํ ก้าวล่วงอยู่ซึ่งความละอาย คือไม่มีหิริ ได้แก่ |
| ไม่มียางอาย. |
| บทว่า วิชิคุจฺฉมานํ ได้แก่ เห็นว่าราวกะว่าสิ่งไม่สะอาด คนไม่มี |
| หิริย่อมเกลียดความละอาย ย่อมเห็นราวกะว่าของไม่สะอาด เพราะเหตุนั้น |
| บุคคลจึงไม่คบ คือไม่เข้าไปใกล้ชิด ซึ่งบุคคลผู้ไม่มีหิรินั้น เพราะเหตุนั้น |
| พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า วิชิคุจฺฉมานํ. |