๑๑๘    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๑๒๐
         ๑.  มิตรเช่นไรไม่ควรคบ                         ๒. มิตรเช่นไรควรคบ
         ๓.  ความพยายามเช่นไรควรประกอบ    ๔.  รสอะไรเลิศกว่ารสทั้งหลาย
         ดาบสนั้นพาปัญหาเหล่านั้นแล้ว   มุ่งหน้าไปยังมัชฌิมประเทศ  เดินไป
ถึงเมืองสาวัตถีโดยลำดับแล้ว     เข้าไปยังพระเชตวัน    แม้พระผู้มีพระภาคเจ้า
ก็ประทับนั่งบนอาสนะ  เพื่อแสดงพระธรรมเทศนา  ในสมัยนั้นอยู่ทีเดียว  เขา
เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วไม่ยอมไหว้  ได้ยืนอยู่ ณ ส่วนข้างหนึ่ง   พระผู้มี
พระภาคเจ้าตรัสคำที่บันเทิงใจ  โดยนัยว่า  ท่านฤาษี  ท่านสบายดีหรือ ดังนี้เป็น
ต้น   แม้ดาบสนั้นก็แสดงความชื่นชมตอบ  โดยนัยว่า    ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ
ข้าพระองค์สบายดี  (พอทนได้)  ดังนี้แล้วจึงคิดว่า   ถ้าหากท่านผู้นี้จักเป็นพระ
พุทธเจ้าไซร้  เมื่อเราทูลถามปัญหาด้วยใจ  พระองค์ก็จะทรงแก้ด้วยวาจา   ดัง
นี้  แล้วจึงทูลถามปัญหาเหล่านั้นกะพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยใจเท่านั้น   พระผู้มี
พระภาคเจ้าอันพราหมณ์ทูลถามแล้ว   เพื่อจะแก้ปัญหาข้อต้นก่อน   จึงทรงเริ่ม
ว่า  หิรินฺตรนฺตํ  เป็นต้น    แล้วจึงตรัสอีกสองคาถาครึ่ง.
         เนื้อความแห่งพระคาถานั้น  พึงทราบดังนี้ :-
         บทว่า  หิรินฺตรนฺตํ  ก้าวล่วงอยู่ซึ่งความละอาย  คือไม่มีหิริ  ได้แก่
ไม่มียางอาย.
         บทว่า  วิชิคุจฺฉมานํ  ได้แก่  เห็นว่าราวกะว่าสิ่งไม่สะอาด  คนไม่มี
หิริย่อมเกลียดความละอาย    ย่อมเห็นราวกะว่าของไม่สะอาด     เพราะเหตุนั้น
บุคคลจึงไม่คบ  คือไม่เข้าไปใกล้ชิด   ซึ่งบุคคลผู้ไม่มีหิรินั้น   เพราะเหตุนั้น
พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า    วิชิคุจฺฉมานํ.
หน้า ๑๑๙