| บาทคาถาว่า สขาหมสฺมิ อิติ ภาสมานํ ความว่า ผู้กล่าวอยู่โดย |
| นัยมีอาทิอย่างนี้ว่า แน่ะเพื่อน ข้าพเจ้าเป็นสหายของท่าน ปรารถนาประโยชน์ |
| ท่าน แม้ชีวิตของข้าพเจ้า ก็ยอมสละเพื่อท่านได้ ดังนี้. |
| บาทคาถาว่า สยฺหานิ กมฺมานิ อนาทิยนฺตํ ความว่า ก็แม้กล่าว |
| อย่างนี้แล้ว ก็ไม่เอื้อเฟื้อ คือไม่ตั้งใจเพื่อจะกระทำการงาน ของมิตรของตน |
| คือกรรมทั้งหลายของมิตรของตน. |
| อีกอย่างหนึ่ง ความว่า ไม่การทำอยู่แม้สักว่าความเอื้อเฟื้อในการงาน |
| นั้นด้วยจิต แต่โดยที่แท้แล แสดงอยู่ซึ่งความเสื่อม (ฉิบหาย) ในกิจการทั้ง |
| หลายที่เกิดขึ้นเท่านั้น. |
| บาทคาถาว่า เนโส มมนฺติ อิติ นํ วิชฺญฺา ความว่า บุรุษผู้ |
| เป็นบัณฑิตพึงทราบชัดซึ่งบุคคลนั้น คือคนเห็นปานนั้น อย่างนี้ว่า คนเช่นนี้ |
| เป็นมิตรเทียม คนเช่นนี้หาใช่มิตรของเราไม่ ดังนี้. |
| บทว่า อนนฺวยํ ความว่า มิตรเทียมนั้น ย่อมพูดว่า เราจักให้ |
| จักการทำประโยชน์อันใด ก็มิได้ติดตามประโยชน์อันนั้น (คือไม่ทำตามที่พูด) |
| หลายบทว่า ปิยํ วาจํ โย มิตฺเตสุ ปกุพฺพติ ความว่า มิตร |
| ใด ปราศรัยถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้วและยังไม่มาถึง ชื่อว่าสงเคราะห์อยู่ซึ่งสิ่งที่หา |
| ประโยชน์มิได้ ชื่อว่าย่อมยังวาจาที่รักให้เป็นไปในมิตรทั้งหลาย ด้วยเหตุสัก |
| ว่า เงาแห่งตัวอักษรอย่างเดียวเท่านั้น. |
| สองบาทคาถาว่า อกโรนฺตํ ภาสมานํ ปริชานนฺติ ปณฺฑิตา |
| ความว่า บัณฑิตทั้งหลายกำหนดรู้บุคคลนั้น คือบุคคลเห็นปานนั้น ผู้ |