๑๓๐    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๑๓๒
         ในบรรดาโกหาหลทั้ง  ๕  ประการเหล่านี้   มังคลโกลาหลนี้     เกิดขึ้น
แล้วในโลก  ในเมื่อพวกเทพดาและมนุษย์ทั้งหลายแตกกันเป็น ๓ พวก  ด้วย
สามารถแห่งทิฏฐิมงคลเป็นต้น     ครั้งนั้น      เมื่อเทพเจ้าทั้งหลายและมนุษย์ทั้ง
หลายค้นหากันแล้ว  ๆ  ไม่ได้มงคลทั้งหลายอยู่    โดยล่วงไป ๑๒ ปี   เทวดาทั้ง
หลายชั้นดาวดึงส์   ก็มาประชุมพร้อมกัน    ติดร่วมกันอย่างนี้ว่า    ดูก่อนท่านผู้
นิรทุกข์ทั้งหลาย   เจ้าของเรือน  (พ่อเจ้าเรือน)  ย่อมบอกเนื้อความแก่พวกชน
ในเรือน,   นายบ้าน   ย่อมบอกเนื้อความแก่ชนทั้งหลายผู้อยู่ในบ้าน,  พระราชา
ย่อมตรัสบอกเนื้อความแก่พวกมนุษย์ทั้งปวง   แม้ฉันใด   ท้าวสักกะจอมเทพนี้
ซึ่งเป็นผู้เลิศและประเสริฐ  คือเป็นอธิบดีแห่งเทวโลกทั้งสอง  ด้วยบุญ  ด้วยเดช
ด้วยความเป็นใหญ่  (และ)  ด้วยปัญญา  ไฉนหนอ  พวกเราจะพึงบอกเนื้อความ
นี้แก่ท้าวสักกะจอมเทพฉันนั้นเหมือนกัน.   เทวดาเหล่านั้นจึงพากันไปยังสำนัก
ของท้าวสักกะ  ถวายบังคมท้าวสักกะจอมเทพ  ผู้มีพระวรกายย้อนเป็นสิริประดับ
ด้วยฉลองพระองค์และอาภรณ์   แวดล้อมด้วยหมู่นางอัปสร  ๒  โกฏิกึ่ง    ผู้ประ
ทับนั่งแล้วบนแท่นบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์   ที่โคนต้นปาริฉัตร   ตามสมควรแก่
ขณะนั้น    ยืนอยู่  ณ  ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วได้กราบทูลเนื้อความนี้ว่า    ข้าแต่
พระองค์ผู้นิรทุกข์  ขอเดชะ    ขอพระองค์พึงทราบเถิดว่า  บัดนี้มงคลปัญหาได้
เกิดขึ้นแล้ว  (คือ)  เทวดาและมนุษย์พวกหนึ่งกล่าวว่า   สิ่งที่เห็นแล้วเป็นมงคล
พวกหนึ่งกล่าวว่าสิ่งที่ได้ฟังแล้วเป็นมงคล  อีกพวกหนึ่งกล่าวว่า  สิ่งที่ได้ทราบ
แล้วเป็นมงคล  ในบรรดาทั้ง ๓ พวกนั้น พวกข้าพระองค์และพวกอื่น   ก็ตก
ลงกันได้  ดังพวกข้าพระองค์ขอโอกาส    ขอพระองค์ทรงพยากรณ์  (มงคล
ปัญหา) แก่พวกข้าพระองค์ตามความเป็นจริงเถิด.
หน้า ๑๓๑