๑๓๑    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๑๓๓
         เทวราชแม้โดยปกติทรงมีปัญญา    ตรัสถามว่า    มงคลคาถานี้เกิดที่
ไหนก่อน.  เทวดาทั้งหลายก็ทูลว่า   พวกข้าพระองค์ได้ฟังมงคลปัญหานี้   ของ
พวกเทพชั้นจาตุมมหาราช   ต่อจากนั้นเทวดาทั้งหลายก็ทูลว่า  พวกเทพเจ้าชั้น
จาตุมมหาราชทั้งหลาย (ได้ฟังปัญหา)  ของพวกอากาสัฏฐเทวดา  พวกอากาสัฏฐ
เทวดาก็ได้ฟังปัญหาของพวกภุมมเทวดา     พวกภุมมเทวดาก็ได้ฟังปัญหาของ
พวกเทวดาผู้รักษามนุษย์  พวกเทพยดาซึ่งรักษามนุษย์ก็กล่าวว่า  ปัญหาตั้งขึ้น
แล้วในมนุษยโลก.
         ครั้งนั้น    ท้าวสักกะจอมเทพจึงตรัสถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า (ขณะ
นี้)  ประทับอยู่ที่ไหน.  พวกเทวดาทั้งหลายก็กราบทูลว่า  ข้าแต่เทวะ  พระองค์
ประทับอยู่ในมนุษยโลก.   ท้าวสักกะตรัสถามว่า    ใครได้ทูลถามปัญหานั้นกะ
พระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว.   เทพยดาทั้งหลายทูลว่า  ข้าแต่เทวะ   ยังไม่มีใครทูล
ถาม.  ดูก่อนท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย   เพราะเหตุไรหนอแล   พวกท่านจึงละเลย
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นผู้แสดงมงคลที่ไม่มีส่วนเหลือ       แล้วสำคัญเรา
ว่าเป็นผู้ควรถาม  ชื่อว่าทิ้งไฟเสียแล้ว   มาใช้แสงหิ่งห้อย  ดูก่อนท่านผู้นิรทุกข์
ทั้งหลาย   พวกท่านจงไป    จงทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น     พวก
ท่านก็จักได้การตอบปัญหาซึ่งมีสิริ (มีคุณค่า) อย่างแน่นอน.
         ท้าวสักกะเทวราชจึงตรัสสั่งเทพบุตรองค์หนึ่งว่า ท่านจงทูลถามพระผู้-
มีพระภาคเจ้า   เทพบุตรองค์นั้นประดับองค์ด้วยเครื่องอลังการตามสมควรขณะ
นั้น  โชติช่วงอยู่   ประดุจสายฟ้า   มีหมู่เทพแวดล้อมมายังพระมหาวิหารเชตวัน
กราบถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า    ยืนอยู่  ณ  ส่วนข้างหนึ่ง   เมื่อจะทูลถาม
หน้า ๑๓๒