| อภิกฺกนฺต ศัพท์ ในคำนี้ว่า อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา ปรากฏใน |
| อรรถว่าสิ้นไป (ขยะ) ดี (สุนทร) งาม (อภิรูป) น่าชื่นชม (อัพภานุโมทนา) |
| เป็นต้น. |
| ในบรรดาคำเหล่านั้น อภิกฺกนฺต ศัพท์ ปรากฏในอรรถว่า สิ้นไป |
| ในประโยคทั้งหลายมีอาทิอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระองค็ผู้เจริญ ราตรีล่วงไป |
| แล้ว ปฐมยามผ่านไปแล้ว ภิกษุสงฆ์ก็นั่งอยู่นานแล้ว ข้าแต่พระองค์ |
| ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงทรงแสดงปาติโมกข์แก่ภิกษุ |
| ทั้งหลายเถิด ดังนี้. |
| อภิกฺกนฺต ศัพท์ ปรากฏในอรรถว่า ดี ในประโยคทั้งหลายมีอาทิ |
| อย่างนี้ว่า ท่านผู้นี้ดีกว่า ประณีตกว่า บุคคลทั้ง ๔ จำพวกเหล่านี้. |
| อภิกฺกนฺต ศัพท์ ปรากฏในอรรถว่า งาม ในประโยคทั้งหลายมีอาทิ |
| อย่างนี้ว่า |
| ใครนะ มีผิวพรรณงามยิ่ง รุ่งเรือง |
| อยู่ด้วยฤทธิ์ ด้วยศ ส่องทิศทั้งปวงให้สว่าง |
| ไสวอยู่ ย่อมไหว้เท้าทั้งสองของเรา ดังนี้. |
| อภิกฺกนฺต ศัพท์ ปรากฏในอรรถว่า น่าชื่นชม ในประโยคทั้งหลาย |
| มีอาทิอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ น่าชื่นชม แต่ในมงคลสูตรนี้ |
| อภิกนฺต ศัพท์ใช้ในอรรถว่า ขยะ สิ้นไป เพราะเหตุนั้น เมื่อราตรีล่วงแล้ว |
| อธิบายว่า เมื่อราตรีสิ้นแล้ว. |
| อภิกฺกนฺต ศัพท์ ในคำว่า อภิกนฺตวณฺณา นี้ ใช้ในอรรถว่างาม. |
| ส่วน วณฺณ ศัพท์ ปรากฎในอรรถทั้งหลายมีอรรถว่า ผิวพรรณ |
| (ฉวิ) การชมเชย (ถุติ) สกุลวงศ์ (กุลวัคคะ) เหตุ (การณะ) รูปร่าง |
| (สัณฐานะ) ประมาณ (ปมาณะ) และอายตนะคือสี (รูปายตนะ) เป็นต้น. |