๑๓๘    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๑๔๐
         แต่ในมงคลสูตรนี้  ท่านประสงค์เอา   กปฺป  ศัพท์   ในความหมายว่า
โดยรอบ.
         เพราะเหตุนั้นในคำว่า  เกวลกปฺปํ   เชตวนํ  นี้  พึงเห็นเนื้อความ
อย่างนี้ว่า  ยังพระเชตวันทั้งสิ้นโดยรอบ.
         บทว่า   โอภาเสตฺวา   ความว่า   แผ่ไปแล้วด้วยแสงสว่าง   อธิบายว่า
กระทำแล้วให้สว่างเป็นอันเดียวกัน       คือให้โชติช่วงเป็นอันเดียวกัน   ดุจ
พระจันทร์และพระอาทิตย์   ฉะนั้น.
         คำว่า  เยน  ในคำว่า  เยน  ภควา  เตนุปสงฺกมิ   เป็นตติยาวิภัตติ
ใช้ในอรรถสัตตมีวิภัตติ.
         บัณฑิตพึงเห็นเนื้อความในคำว่า  ยตฺถ  ภควา   ตตฺถ   อุปสงฺกมิ  นี้ว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ในที่ใด      ก็เข้าไปเฝ้าแล้วซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้า
ในที่นั้น    โดยกาลนั้น,    อีกอย่างหนึ่ง   พึงเห็นเนื้อความในคำว่า   เทวดาและ
มนุษย์ทั้งหลาย    พึงเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า   ด้วยเหตุใด   เทวบุตรก็เข้าเฝ้า
ด้วยเหตุนั้น  ดังนี้
         ถามว่า  พระผู้มีพระภาคเจ้า  อันเทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายพึงเข้าไป
เฝ้าโดยเหตุไร ?    ตอบว่า    เข้าไปเฝ้าแล้ว    มีคำอธิบายว่า    ไปแล้ว    ด้วย
ความประสงค์ที่จะบรรลุคุณวิเศษที่ประการต่าง  ๆ  ดุจไม้ใหญ่ที่ผลิดอกอกผล
อยู่เป็นนิจ    อันหมู่นกทั้งหลายเข้าไปหาอยู่    ด้วยประสงค์จะบริโภคผลที่อร่อย
ฉะนั้น.   คำว่า   อุปสงฺกมิตฺวา   เป็นการแสดงถึงการสิ้นสุดแห่งการเข้าไปเฝ้า
อีกอย่างหนึ่ง   เทวดานั้น ไปแล้วอย่างนี้   มีคำอธิบายว่า   ไปแล้วสู่สถานที่อัน
ใกล้กว่า  คือที่ใกล้ของพระผู้มีพระภาคเจ้าต่อจากนั้น.
หน้า ๑๓๙