| การไม่คบ คือการไม่เข้าไปนั่งใกล้ ชื่อว่า อเสวนา ในพระคาถา |
| นั้น. ในคำว่า พาลานํ มีวิเคราะห์ว่า ชนทั้งหลายเหล่าใด ย่อมอ่อนแอ |
| เหตุนั้น ชนเหล่านั้นชื่อว่า คนพาล. |
| ถามว่า ย่อมอ่อนแอ เพราะเหตุไร ? ตอบว่า ชนทั้งหลายย่อม |
| เป็นอยู่สักว่าลมหายใจเข้าออก อธิบายว่า ไม่ได้เป็นอยู่ด้วยปัญญา. ซึ่งคนพาล |
| ทั้งหลายเหล่านั้น. |
| ในคำว่า ปณฺฑิตานํ มีวิเคราะห์ว่า ชนทั้งหลายเหล่าใดย่อมดำเนิน |
| ไปด้วยปัญญา เหตุนั้น ชนเหล่านั้น ชื่อว่า บัณฑิต อธิบายว่า ชนทั้งหลาย |
| ย่อมดำเนินไป ด้วยญาณคติในประโยชน์ทั้งหลาย ทั้งที่เป็นไปในปัจจุบัน |
| ทั้งที่เป็นไปในสัมปรายภพ. ซึ่งบัณฑิตทั้งหลายเหล่านั้น. |
| การคบ คือการเข้าไปนั่งใกล้ ได้แก่ การมีบุคคลนั้นเป็นสหาย |
| การมีบุคคลนั้นเป็นเพื่อน ชื่อว่า เสวนา. |
| การทำสักการะ การทำความเคารพ การนับถือและการกราบไหว้ |
| ชื่อว่า บูชา. |
| คำว่า ปูชเนยฺยานํ หมายถึง ผู้ควรแก่การบูชา. |
| คำว่า เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรวบรวม |
| การกระทำทั้งหมดคือ การไม่คบคนพาล ๑ การคบบัณฑิต ๑ การบูชาบุคคล |
| ที่ควรบูชา ๑ เข้าด้วยกันแล้วตรัสว่า เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ ข้อนั้นเป็นมง- |
| คลอันสูงสุด มีคำที่ท่านกล่าวอธิบายไว้ว่า ท่านจงถือเอาในคำที่ท่านถามว่า |
| ขอพระองค์จงตรัสบอกมงคลอันสูงสุด ทั้ง ๓ นี้ ว่า เป็นมงคลอันสูงสุดก่อน |