๑๔๕    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๑๔๗
         ในบรรดากถาทั้งหลายเหล่านี้    มงคลกถานี้ชื่อว่า   ปุจฉิตกถา   เพราะ
พระผู้มีพระภาคเจ้าซึ่งเทวบุตรทูลถามแล้วได้ตรัสไว้  ดังพรรณนามานี้.
         ก็ผู้ศึกษาพึงทราบวินิจฉัยในปุจฉิตกถา  ดังต่อไปนี้ :-
         ในบรรดาบุคคลทั้งหลายที่ควรคบและไม่ควรคบ   พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสบอกถึงบุคคลที่ไม่ควรคบก่อน  แล้วตรัสบอกถึงบุคคลที่ควรคบในภายหลัง
เปรียบเหมือนบุรุษผู้ฉลาด    เป็นผู้ฉลาดในหนทางและที่ไม่ใช่หนทาง    เมื่อ
มีผู้ถามถึงทาง   จึงได้บอกทางที่ควรละก่อน   แล้วบอกทางที่ควรถือเอาในภาย
หลังนั้นว่า     ในสถานที่ชื่อโน้นมีทางอยู่สองแพร่ง    ในบรรดาทางทั้งสองนั้น
ท่านจงละทางซ้าย  แล้วถือเอาทางขวา   ฉะนั้น.
         ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นเช่นกับคนที่ฉลาดในหนทาง    สมดังที่พระ-
ธรรมสังคาหกาจารย์กล่าวไว้ว่า  ดูก่อนติสสะ  คำว่าบุรุษผู้ฉลาดในหนทางนี้แล
เป็นชื่อแห่งพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า   ด้วยว่าพระองค์ทรงฉลาดใน
โลกนี้  ฉลาดในโลกอื่น  ฉลาดในบ่วงของมัจจุ  ฉลาดในธรรมที่ไม่ใช่บ่วงของ
มัจจุ  ฉลาดในบ่วงของมาร  ฉลาดในธรรมที่มิใช่บ่วงของมาร    พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าเมื่อตรัสบอกถึงบุคคลที่ไม่ควรเสพก่อนจึงตรัสว่า  อเสวนา  จ  พาลานํ
การไม่คบคนพาลทั้งหลาย    และเมื่อตรัสบอกบุคคลที่ควรเสพ     จึงตรัสว่า
ปณฺฑิตานญฺจ  เสวนา  การคบบัณฑิตทั้งหลาย.
         ด้วยว่า  พวกคนพาลอันบุคคลไม่ควรคบ   คือไม่ควรเข้านั่งใกล้ก่อน
ราวกะว่าทางที่ควรเว้น   ต่อจากนั้นก็ควรคบคือควรเข้าไปนั่งใกล้บัณฑิตทั้งหลาย
ดุจทางที่ควรถือเอา.   ถามว่า  ก็เพราะเหตุไร  พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อตรัสมงคล
หน้า ๑๔๖