๑๔๘    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๑๕๐
                        บุคคลไม่พึงเห็น  ไม่พึงฟังคนพาล
                และไม่พึงอยู่ร่วมกับคนพาล ไม่ควรสนทนา
                ปราศรัยกับคนพาล      และไม่ควรพอใจการ
                สนทนาปราศรัยกับคนพาล
         (ท้าวสักกะตรัสถามว่า)
                        ดูก่อนกัสสปะ  คนพาลได้ทำอะไร
                ให้แก่ท่านแลหรือ   ท่านจงบอกถึงเหตุ  ดู
                ก่อนกัสสปะ  เพราะเหตุไร  ท่านจึงชมต้อง
                การเห็นคนพาล
         (อกิตติดาบสตอบว่า)
                (เพราะ) คนพาลมีปัญญาทราม  ย่อม
                แนะนำสิ่งที่ไม่ควรแนะนำ   ย่อมประกอบใน
                สิ่งที่ไม่ใช่ธุระ     การแนะนำในทางที่ผิด ๆ
                เป็นความประเสริฐ  (ของคนพาล)  คนพาล
                แม้เขาพูดดี  ๆ   ก็โกรธ  คนพาลนั้นย่อมไม่รู้
                จักอุบายเครื่องแนะนำ     การไม่เห็นคนพาล
                นั้นเสียได้เป็นการดี.
         พระผู้มีพระภาคเจ้า  เมื่อทรงติเตียนการคบคนพาลโดยประการทั้งปวง
อย่างนี้แล้ว    จึงตรัสว่า    การไม่คบพวกคนพาลเป็นมงคล   บัดนี้เมื่อจะตรัส
สรรเสริญการคบบัณฑิตจึงตรัส   ปณฺฑิตานณฺจ  เสวนา  ว่าเป็นมงคล.
         สัตว์ทั้งหลายที่ประกอบด้วยกุศลกรรมบถ  ๑๐  มีปาณาติบาตเป็นต้น
จำพวกใดจำพวกหนึ่งชื่อว่า  บัณฑิต  ในบรรดาการคบคนพาลและบัณฑิตทั้ง
สองนั้น   บัณฑิตทั้งหลายเหล่านั้น  จะพึงทราบได้โดยอาการ ๓ อย่าง  ดังที่ตรัส
หน้า ๑๔๙