๑๕๕    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๑๕๗
คาถาที่ ๒ (มี ๓ มงคล)
         พระผู้มีพระภาคเจ้าแม้อันเทวดาทูลเชื้อเชิญเพื่อให้ตรัสมงคลเดียวว่า
ขอพระองค์จงตรัสบอกมงคลอันสูงสุด ดังนี้  อย่างนี้  ก็ตรัสถึง ๓ มงคล
ด้วยคาถาเดียว   เหมือนบุรุษที่มีจิตใจกว้างขวาง   เขาขอน้อย   ก็ให้มากฉะนั้น
เพราะเหตุที่พระองค์ทรงปรารถนาจะให้เทวดาทั้งหลายได้สดับแม้ยิ่งขึ้นไปกว่า
นั้น    และเพราะมงคลมีอยู่หลายอย่าง  พระองค์จึงเริ่มตรัสถึงมงคลทั้งหลายเป็น
อเนก  แม้อีก  ด้วยพระคาถาทั้งหลายว่า  ปฏิรูปเทสวาโส   จ ดังนี้เป็นต้น
เพราะความที่พระองค์เป็นผู้ปรารถนาจะชักนำสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นไว้ในสิ่งที่
เป็นประโยชน์เกื้อกูลนั้น  ๆ อันเป็นมงคล.
         ในพระคาถาที่  ๒  นั้น   ข้าพเจ้าจะได้พรรณาบทคาถาที่ ๑ ก่อน. คำว่า
ปฏิรูโป แปลว่า  สมควร.  บ้านก็ดี  นิคมก็ดี  นครก็ดี  ชนบทก็ดี  หรือโอกาส
เป็นที่อยู่ของสัตว์ทั้งหลายแห่งใดแห่งหนึ่ง   ชื่อว่า  เทสะ.
         การอยู่ในประเทศนั้นชื่อว่า  วาสะ.
         บทว่า   ปุพฺเพ   ได้แก่ กาลก่อน คือ  ในชาติทั้งหลายที่ล่วงมาแล้ว.
         ความเป็นผู้มีกุศลอันสั่งสมไว้แล้วชื่อว่า   กตปุญฺตา.
         จิตท่านเรียกว่า  อัตตา   อีกอย่างหนึ่ง  อัตภาพทั้งสิ้น  ท่านก็เรียกว่า
อัตตา.
         การตั้งความปรารถนา    อธิบายว่า    การประกอบไว้    คือการวางไว้
ซึ่งตนนั้นโดยชอบ  ชื่อว่า  สัมมาปณิธิ.
         คำที่เหลือมีนัยอันข้าพเจ้ากล่าวแล้วนั่นแหละ     ดังนี้แล.     นี่คือการ
พรรณนาเฉพาะบทในคาถานี้  ส่วนการพรรณนาเนื้อความ  พึงทราบดังต่อไปนี้.
หน้า ๑๕๖