๑๕๘    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๑๖๐
         การสั่งสมกุศลปรารภพระพุทธเจ้า  พระปัจเจกพุทธเจ้าและพระขีณาสพ
ทั้งหลายในชาติที่ล่วงมาแล้ว  ชื่อว่า ปุพฺเพ    กตปุญฺตา  แม้ปุพเพกตปุญญตา
นั้นก็ชื่อว่าเป็น  มงคล.
         ถามว่า   เพราะเหตุไร  ?
         ตอบว่า  เพราะคำอธิบายว่า   บุคคลย่อมบรรลุพระอรหันต์ได้ในที่สุด
แห่งคาถา   แม้ประกอบด้วยบท  ๔   อันท่านแสดงแล้วต่อพระพักตร์ของพระ-
พุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้า   ซึ่งตนฟังแล้วเฉพาะพระพักตร์ของพระพุทธ-
เจ้าทั้งหลาย  หรือเฉพาะหน้าของพระพุทธสาวก.
         ก็มนุษย์ผู้ใดได้สั่งสมบุญไว้ในปางก่อน    เป็นผู้มีมูลแห่งกุศลอันหนา
ขึ้นแล้ว   มนุษย์ผู้นั้นเจริญวิปัสสนาแล้วย่อมถึงความสิ้นไปแห่งอาสวะได้  ด้วย
กุศลมูลนั้นนั่นเอง  เหมือนอย่างพระเจ้ามหากัปปินะ และอัครมเหสีของพระองค์
เพราะเหตุนั้น  พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า  ปุพฺเพ  จ  กตปุญฺตา  มงฺคลํ.
         ข้าพเจ้าจะได้กล่าวถึง   การตั้งตนไว้ชอบ   ต่อไป คือ บุคคลบางคน
ในโลกนี้  ทำตนซึ่งเป็นผู้ทุศีล  ให้ตั้งอยู่ในศีล  ทำตนซึ่งไม่มีศรัทธาให้ตั้งอยู่ใน
ศรัทธาสัมปทา ทำตนซึ่งเป็นคนตระหนี่ให้ตั้งอยู่ในจาคะสัมปทา  นี้ท่านเรียกว่า
อตฺตสมฺมาปณิธิ   การตั้งตนไว้ชอบ  การตั้งตนไว้ชอบนี้   จัดว่าเป็นมงคล.
         ถามว่า   เพราะเหตุไร  ?
         ตอบว่า  เพราะเป็นเหตุให้ละเวร  ที่เป็นไปในปัจจุบันและสัมปรายภพ
และให้บรรลุอานิสงส์ต่าง  ๆ.
หน้า ๑๕๙