๑๖๔    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๑๖๖
         พึงทราบอธิบายในการบำรุงเลี้ยงนั้น    ดังต่อไปนี้.     เพราะเหตุที่
มารดาบิดา    เป็นผู้มีอุปการะมาก    หวังประโยชน์   เป็นผู้อนุเคราะห์ต่อบุตร
ทั้งหลาย   ซึ่งท่านเห็นบุตรเหล่านั้น    เล่นอยู่ข้างนอก   มีสรีระเปื้อนฝุ่นมาแล้ว
ก็เช็ดฝุ่นให้  กอดจูบที่ศีรษะและยังความรักให้เกิด. บุตรทั้งหลายเลี้ยงมารดาบิดา
ด้วยการทูนไว้บนศีรษะแม้สิ้น  ๑๐๐  ปี    ก็ไม่สามารถที่จะตอบแทนอุปการคุณ
แห่งการบำรุงเลี้ยงนั้นได้   และเพราะเหตุที่ท่านทั้งสองนั้น     เป็นผู้บำรุง  เป็นผู้
เลี้ยงดู  เป็นผู้แสดงโลกนี้    เป็นผู้เสมอกับพระพรหม   เป็นบุพพาจารย์  ฉะนั้น
การบำรุงเลี้ยงมารดาบิดาทั้งสองนั้น     จึงนำมาซึ่งการสรรเสริญในโลกนี้   ละไป
แล้ว   ก็นำความสุขในสวรรค์มาให้    พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า   เป็นมงคล
สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า
                มารดาบิดาทั้งหลาย ผู้อนุเคราะห์แก่
                ปชา  (บุตรธิดา)  ท่านเรียกว่า   เป็นพรหม
                ว่าเป็นบุพพาจารย์     ว่าเป็นอาหุเนยยบุคคล
                ของบุตรทั้งหลาย  เพราะเหตุนั้นแล บัณฑิต
                พึงนอบน้อมและสักการะมารดาบิดาเหล่า
                นั้น    ด้วยข้าว   น้ำ   ผ้า   ที่นอน   การอบ
                การอาบน้ำ  และการล้างเท้า  ด้วยการปรน-
                นิบัติในมารดาบิดาทั้งสองนั้น    บัณฑิตทั้ง-
                หลายย่อมสรรเสริญบุคคลนั้น   ในโลกนี้นั้น
                แล    เขาละโลกนี้ไปแล้ว     ย่อมบันเทิงใน
                สวรรค์  ดังนี้.
๑. ขุ. อิติวุตตกะ ๒๕/ ข้อ ๒๘๖.
หน้า ๑๖๕