๑๗๐    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๑๗๒
         ที่ชื่อว่า   ทาน  เพราะอรรถว่าสิ่งของเป็นเครื่องให้.   มีคำอธิบายว่า
สิ่งของของตนอันบุคคลย่อมมอบให้แก่ผู้อื่น.
         การประพฤติธรรม   หรือการประพฤติที่ไม่ไปปราศจากธรรม  ชื่อว่า
ธรรมจริยา.
         ชนทั้งหลายเหล่านี้   อันเราทั้งหลายย่อมรู้จัก เพราะเหตุนั้นชนทั้งหลาย
เหล่านี้    จึงชื่อว่า    ญาติ.
         การงานทั้งหลายที่มีโทษหามิได้   ชื่อว่า    การงานไม่มีโทษ.   มีคำ
อธิบายว่า  การงานทั้งหลายที่บัณฑิตไม่ติเตียน   คือไม่ครหา.   คำที่เหลือมีนัย
อันข้าพเจ้ากล่าวแล้วนั้นแล.  นี้คือการพรรณนาเฉพาะบท.   ส่วนการพรรณนา
เนื้อความ    ผู้ศึกษาพึงทราบดังต่อไปนี้.
         เจตนาเป็นเครื่องบริจาคทานวัตถุ   ๑๐   อย่าง   มีข้าวเป็นต้น   ซึ่งมี
ความยินดีในเบื้องต้น   เจาะจงผู้อื่น  ชื่อว่า  ทาน.
         อีกอย่างหนึ่ง  อโลภะ  ที่สัมปยุตด้วยเจตนานั้น   ชื่อว่า  ทาน.  ด้วยว่า
บุคคลย่อมมอบให้ซึ่งวัตถุนั้นแก่บุคคลอื่น   ด้วยอโลภะนั้น    เพราะเหตุนั้น  ท่าน
จึงกล่าวว่า  ที่ชื่อว่า   ทาน  เพราะอรรถว่าวัตถุเป็นเครื่องให้.  ทานนั้น  พระผู้มี
พระภาคเจ้าตรัสว่าเป็นมงคล     เพราะเป็นเหตุให้ได้บรรลุผลวิเศษทั้งหลายอัน
เป็นไปในปัจจุบันและสัมปรายภพ   มีความเป็นที่รักของชนเป็นอันมากเป็นต้น.
ก็ในข้อนี้  พึงระลึกถึงพระสูตรทั้งหลาย     มีอาทิอย่างนี้ว่า   ดูก่อนสีหะ  ทายก
ที่เป็นทานบดี  ย่อมเป็นที่รักเป็นที่พอใจของชนเป็นอันมาก   ดังนี้.
         อีกอย่างหนึ่ง  ชื่อว่า  ทานมี ๒ อย่างคือ  อามิสทาน   และธรรมทาน
ในทาน  ๒  อย่างนั้น       อามิสทาน     มีประการอันข้าพเจ้ากล่าวแล้วนั้นแล.
หน้า ๑๗๑