๑๗๔    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๑๗๖
         ก็ชื่อว่าวิรัตินั้นมี  ๓  อย่าง   คือ  สัมปัตตวิรัติ  ๑  สมาทานวิรัติ  ๑
สมุจเฉทวิรัติ  ๑.
         ในวิรัติทั้ง  ๓  อย่างนี้   การงดเว้นของกุลบุตรจากวัตถุที่ประจวบเข้า
เพราะอาศัยชาติ  หรือสกุล  หรือโคตรของตน  โดยนัยว่า   ข้อที่เราจะพึงฆ่าสัตว์
พึงถือเอาของที่เจ้าของเขาไม่ให้นี้ไม่ควร  ชื่อว่า สัมปัตตวิรัติ. ส่วนว่ากุลบุตร
ไม่ประพฤติล่วงเกินสิกขาบทมีปาณาติบาตเป็นต้น    จำเดิมแต่ความเป็นไปแห่ง
วิรัติ  อันเป็นไปแล้วด้วยสามารถแห่งการสมาทานสิกขาบท   ชื่อว่า  สมาทาน
วิรัติ.
         ภัยเวร  ๕  ประการ   ของพระอริยสาวกสงบระงับไป   จำเดิมแต่ความ
เป็นไปแห่งวิรัติอันสัมปยุตด้วยอริยมรรค  ชื่อว่า  สมุจเฉทวิรัติ.
         อกุศล  ๔  อย่างนั้นใด กล่าวคือกรรมกิเลสที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้
พิสดารอย่างนี้ว่า ดูก่อนคฤหบดีบุตร  กรรมกิเลสคือปาณาติบาต   อทินนาทาน
กาเมสุมิจฉาจาร   เเละมุสาวาท    ดังนี้   ที่พระธรรมสังคาหกาจารย์รวบรวมไว้
ด้วยคาถาอย่างนี้ว่า
                        บัณฑิตทั้งหลายย่อมไม่สรรเสริญ
                (กรรมกิเลส  ๔ ประการคือ)  ปาณาติบาต ๑
                อทินนาทาน  ๑ มุสาวาท  ๑   การประพฤติผิด
                ภรรยาผู้อื่น  ๑  ดังนี้.
         อกุศลทั้ง  ๔  ประการ  ชื่อว่า  บาป.
         การงดเว้นจากบาปนั้น    การงดและการเว้นทั้งหมดนี้    พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสว่าเป็นมงคล    เพราะเป็นเหตุแห่งการบรรลุคุณวิเศษนานาประการ
หน้า ๑๗๕