๑๗๕    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๑๗๗
มีการละเวรภัยอันเป็นไปในปัจจุบันและสัมปรายภพเสียได้  ก็ในข้อนี้พึงระลึก
ถึงพระสูตรทั้งหลายมีอาทิอย่างนี้ว่า    ดูก่อนคฤหบดีบุตร  พระอริยสาวกเป็นผู้
งดเว้นจากปาณาติบาตแล.
         ก็ข้าพเจ้าจะได้กล่าวถึงการสำรวมจากการดื่มน้ำเมาต่อไป.
         ก็คำว่า   มชฺชปานา  จ  สํยโม   นี้  เป็นชื่อแห่งการงดเว้นจากที่ตั้ง
แห่งความประมาท     คือการดื่มซึ่งน้ำเมากล่าวคือสุราและเมรัย     ก็เพราะเหตุ
ที่บุคคลผู้ดื่มน้ำเมาเป็นปกติ   ย่อมไม่รู้อรรถ   ย่อมไม่รู้ธรรม   ย่อมทำอันตราย
แก่มารดา   ทำอันตรายแก่บิดา    ทำอันตรายแม้แก่พระพุทธเจ้า    พระปัจเจก-
พุทธเจ้า    และสาวกของพระตถาคต    ย่อมถูกติเตียนในปัจจุบัน    เข้าถึงทุคติ
ในสัมปรายภพ   (และ)  ถึงความเป็นบ้าในภพต่อ ๆ ไป.   ส่วนการงดเว้นจาก
การดื่มน้ำเมา     ย่อมบรรลุซึ่งการดับโทษเหล่านั้นเสียได้    และบรรลุความถึง
พร้อมแห่งคุณ   ซึ่งตรงกันข้ามกับโทษที่กล่าวแล้วนั้น. เพราะฉะนั้น  การงดเว้น
จากการดื่มน้ำเมานี้   พึงทราบว่า  เป็นมงคล.
         ชื่อว่าความไม่ประมาทในกุศลธรรมทั้งหลาย  ข้าพเจ้าจะได้กล่าวต่อไป
         โดยเนื้อความ  ความไม่อยู่ปราศจากสติในกุศลธรรมทั้งหลาย พึงทราบ
โดยนัยตรงกันข้ามกับความประมาท   ที่ตรัสไว้ในคัมภีร์วิภังค์ว่า   การกระทำ
โดยไม่เคารพในการเจริญกุศลธรรมทั้งหลาย  การกระทำไม่ติดต่อ   การกระทำ
ไม่มั่นคง  ความประพฤติท้อแท้   การหมดความพอใจ   การทอดธุระ  การไม่
ซ่องเสพ  การไม่เจริญ    การไม่กระทำให้มาก   การไม่อธิษฐาน  (ไม่ตั้งใจไว้)
การไม่ประกอบเนือง ๆ   ซึ่งกุศลธรรมทั้งหลาย  ชื่อว่า  ความประมาท.  ความ
๑. อภิ. วิ. ๓๕/ ข้อ ๘๑๓.
หน้า ๑๗๖