| ผ้าเช็ดเท้า เป็นผู้เสมอด้วยโคเขาขาด และเป็นผู้เสมอด้วยงูที่ถูกถอนเขี้ยวเสีย |
| แล้ว เป็นผู้มีวาจาอ่อนหวานไพเราะและเสนาะโสต นี้ชื่อว่า นิวาตะ. นิวาตะ |
| นี้นั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า เป็นมงคล เพราะเป็นเหตุแห่งการได้คุณ |
| มียศเป็นต้น ก็ท่านได้กล่าวไว้ว่า บุคคลที่มีความประพฤติถ่อมตนเช่นนั้น |
| เป็นผู้ไม่กระด้างแล้ว ย่อมได้ยศ ดังนี้เป็นต้น. |
| ความพอใจด้วยปัจจัยตามมีตามได้ ชื่อว่า สันตุฏฐี ความสัน โดษ. |
| ความสันโดษนั้นมี ๑๒ อย่าง คือ ในจีวรมี ๓ อย่าง คือ ยถาลาภสันโดษ |
| ยถาพลสันโดษ ยถาสารุปปสันโดษ. แม้ในบิณฑบาตเป็นต้นก็มีอย่างละ ๓ |
| เหมือนกัน การพรรณนาประเภทแห่งสันโดษนั้นมีดังต่อไปนี้. |
| ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ ได้จีวรดีก็ตามไม่ดีก็ตาม เธอยังอัตภาพให้ |
| เป็นไปด้วยจีวรนั้นนั่นแหละ ไม่ปรารถนาจีวรอื่น แม้เมื่อจะได้จีวรมาอีก |
| ก็ไม่ยอมรับ นี้คือความยินดีตามมีตามได้ (ยถาลาภสัน โดษ) ในจีวรของภิกษุ |
| นั้น แต่ถ้าหากว่าภิกษุนั้นเป็นผู้อาพาธ เมื่อครองจีวรหนัก (กายย่อมน้อมลง) |
| เธอย่อมลำบาก เธอก็เปลี่ยนจีวรนั้นกับภิกษุผู้เป็นสภาคกันเสีย แล้วยังอัตภาพ |
| ให้เป็นไปด้วยจีวรที่เบา นี้จัดว่าสันโดษเหมือนกัน นี้ชื่อว่า ยถาลาภสันโดษ |
| ในจีวรของภิกษุนั้น. |
| ภิกษุอีกรูปหนึ่ง เป็นผู้มีปกติได้ปัจจัยที่ประณีต ภิกษุรูปนั้นได้จีวร |
| มีค่ามากผืนใดผืนหนึ่ง ในบรรดาปัจจัยทั้งหลาย มีบาตรและจีวรเป็นต้น |
| แล้วคดว่า จีวรอันมีค่ามากนี้ สมควรแก่พระเถระทั้งหลาย ผู้บวชมานาน |
| หรือผู้เป็นพหูสูต ดังนี้แล้วจึงได้ถวายจีวรนั้นเเก่พระเถระเหล่านั้น ตนเอง |
| ถือเอาจีวรที่ไม่มีเจ้าของ จากกองหยากเยื่อ หรือจากป่า หรือจากที่แห่งใด |