๑๘๒    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๑๘๔
         ความเป็นผู้กตัญญูนั้น    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าเป็นมงคล  เพราะ
เป็นเหตุแห่งการบรรลุคุณวิเศษมีประการต่างๆมีความเป็นผู้อันสัปบุรุษทั้งหลาย
พึงสรรเสริญเป็นต้น    ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า  ภิกษุทั้งหลาย   บุคคล
ที่หาได้ยากในโลกเหล่านี้มีอยู่ ๒ จำพวก.    ๒ จำพวกอะไรบ้าง   คือ    ผู้ที่ทำ
อุปการะก่อน ๑ ผู้กตัญญูกตเวที  ๑.
         ในกาลใด  จิตสหรคตด้วยอุทธัจจะ  หรือถูกกามวิตกอย่างใดอย่างหนึ่ง
มีกามวิตกเป็นต้นครอบงำ  การฟังธรรมเพื่อบรรเทากามวิตกเป็นต้นนั้นในกาล
นั้น   ชื่อว่า   กาเลน   ธมฺมสฺสวนํ  การฟังธรรมตามกาล.   อาจารย์พวกอื่น
กล่าวว่า   การฟังธรรมทุก ๆ  วันที่ ๕ (แห่งสัปดาห์)  ชื่อว่าฟังธรรมตามกาล
อย่างที่ท่านพระอนุรุทธะผู้มีอายุกราบทูลว่า    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  ก็ทุก ๆ ๕
วันแล    พวกข้าพระองค์พึงนั่งสนทนาธรรมกถากันตลอดคืนยังรุ่ง   พระพุทธะ-
เจ้าข้า.
         อีกอย่างหนึ่ง   ในกาลใด   บุคคลเข้าไปหากัลยาณมิตรทั้งหลายแล้ว
สามารถจะฟังธรรมที่จะบรรเทาความสงสัยของตนเสียได้     การฟังธรรมแม้ใน
กาลนั้น   พึงทราบว่า  การฟังธรรมตามกาล  ดังที่ท่านกล่าวไว้ว่า  ภิกษุเข้าไปหา
ท่านผู้รู้เหล่านั้นสอบถามปัญหา   และย่อมแก้ปัญหาตามกาลอันสมควรดังนี้เป็น
ต้น.  การฟังธรรมตามกาลนี้นั้น  ชื่อว่าเป็นมงคล  เพราะเป็นเหตุให้บรรลุคุณ
วิเศษมีประการต่าง ๆ  มีการละนิวรณ์    การเห็นอานิสงส์ ๔ ประการ    และ
การบรรลุการสิ้นอาสวะเป็นต้น       สมจริงดังคำที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า
ภิกษุทั้งหลาย  ในสมัยใด  พระอริยสาวกตั้งใจมนสิการ    น้อมเข้ามาในใจโดย
ประการทั้งปวง   จงใจฟัง  ฟังธรรมอยู่   ในสมัยนั้น  นิวรณ์  ๕  ประการ   ย่อม
๑. ม. มู ๑๒/ ข้อ ๓๖๔.
หน้า ๑๘๓