| ความเป็นผู้กตัญญูนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าเป็นมงคล เพราะ |
| เป็นเหตุแห่งการบรรลุคุณวิเศษมีประการต่างๆมีความเป็นผู้อันสัปบุรุษทั้งหลาย |
| พึงสรรเสริญเป็นต้น ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ภิกษุทั้งหลาย บุคคล |
| ที่หาได้ยากในโลกเหล่านี้มีอยู่ ๒ จำพวก. ๒ จำพวกอะไรบ้าง คือ ผู้ที่ทำ |
| อุปการะก่อน ๑ ผู้กตัญญูกตเวที ๑. |
| ในกาลใด จิตสหรคตด้วยอุทธัจจะ หรือถูกกามวิตกอย่างใดอย่างหนึ่ง |
| มีกามวิตกเป็นต้นครอบงำ การฟังธรรมเพื่อบรรเทากามวิตกเป็นต้นนั้นในกาล |
| นั้น ชื่อว่า กาเลน ธมฺมสฺสวนํ การฟังธรรมตามกาล. อาจารย์พวกอื่น |
| กล่าวว่า การฟังธรรมทุก ๆ วันที่ ๕ (แห่งสัปดาห์) ชื่อว่าฟังธรรมตามกาล |
| อย่างที่ท่านพระอนุรุทธะผู้มีอายุกราบทูลว่า๑ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็ทุก ๆ ๕ |
| วันแล พวกข้าพระองค์พึงนั่งสนทนาธรรมกถากันตลอดคืนยังรุ่ง พระพุทธะ- |
| เจ้าข้า. |
| อีกอย่างหนึ่ง ในกาลใด บุคคลเข้าไปหากัลยาณมิตรทั้งหลายแล้ว |
| สามารถจะฟังธรรมที่จะบรรเทาความสงสัยของตนเสียได้ การฟังธรรมแม้ใน |
| กาลนั้น พึงทราบว่า การฟังธรรมตามกาล ดังที่ท่านกล่าวไว้ว่า ภิกษุเข้าไปหา |
| ท่านผู้รู้เหล่านั้นสอบถามปัญหา และย่อมแก้ปัญหาตามกาลอันสมควรดังนี้เป็น |
| ต้น. การฟังธรรมตามกาลนี้นั้น ชื่อว่าเป็นมงคล เพราะเป็นเหตุให้บรรลุคุณ |
| วิเศษมีประการต่าง ๆ มีการละนิวรณ์ การเห็นอานิสงส์ ๔ ประการ และ |
| การบรรลุการสิ้นอาสวะเป็นต้น สมจริงดังคำที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า |
| ภิกษุทั้งหลาย ในสมัยใด พระอริยสาวกตั้งใจมนสิการ น้อมเข้ามาในใจโดย |
| ประการทั้งปวง จงใจฟัง ฟังธรรมอยู่ ในสมัยนั้น นิวรณ์ ๕ ประการ ย่อม |
|