๑๘๕    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๑๘๗
บริภาษนั้น   ข้าพระองค์จักคิดอย่างนี้ว่า  ดีหนอ ที่มนุษย์เมืองสุนาปรันตกะ ฯลฯ
ดีทีเดียวหนอ  ที่พวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตกะเหล่านี้ไม่ใช้ฝ่ามือประหารข้าพระ-
องค์ดังนี้เป็นต้น  และอธิวาสนขันติที่ภิกษุประกอบแล้ว  เป็นผู้ที่แม้ฤาษีทั้งหลาย
พึงสรรเสริญ   ดังที่สรภังคฤาษีกล่าวไว้ว่า
                        บุคคลฆ่าความโกรธเสียได้    จะไม่
                เศร้าโศกในกาลไหน  ๆ  ฤาษีทั้งหลายสรร-
                เสริญการละความลบหลู่    ท่านทั้งหลายจง
                อดทนคำหยาบคายที่คนทั้งปวงกล่าวแล้ว
                สัปบุรุษทั้งหลายกล่าวขันตินี้ว่าสูงสุด  ดังนี้.
         ภิกษุเช่นนั้นแม้เทวดาทั้งหลายก็สรรเสริญ      ดังที่ท้าวสักกะจอมเทพ
ตรัสไว้ว่า
                        ผู้ใดแล  เป็นคนมีกำลัง   อดกลั้นต่อ
                คนผู้ทรุพลไว้   ความอดกลั้นของบุคคลนั้น
                บัณฑิตทั้งหลายกล่าวว่า    เป็นขันติอย่างยิ่ง
                เพราะคนทุรพลต้องอดทนอยู่เป็นนิตย์.
         ผู้ที่มีความอดทนแม้พระพุทธเจ้าทั้งหลายก็ตรัสสรรเสริญ     ดังที่พระ
ผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า
                        ผู้ใดไม่โกรธไม่ประทุษร้าย  ย่อมอด
                กลั้นต่อการฆ่าและการจองจำ  เราเรียกผู้นั้น
                ซึ่งมีขันติเป็นพลัง     ผู้มีพลังเป็นเสนา    ว่า
                เป็นพราหมณ์.
๑. สัง. สคาถวรรค ๑๕/ ข้อ ๘๗๕.
หน้า ๑๘๖