๑๘๗    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๑๘๙
จักษุที่แจ่มใส   ประกอบด้วยสิริ   มีวรรณะ  ๕   เช่น  กับด้วยหน้าต่างแก้วมณี
ที่เปิดไว้ในวิมานแก้ว   เป็นผู้มีปกติได้สมบัติทุกอย่าง   ทั้งในเทวโลก   ทั้งใน
มนุษยโลกประมาณสิ้นแสนกัป   ข้อที่บุคคลมีปัญญา    เกิดเป็นมนุษย์มีปัญญา
จะพึงเสวยวิบากสมบัติเห็นปานนั้น     ด้วยคุณซึ่งเกิดจากการเห็นสมณะที่เป็นไป
โดยชอบ   นี้ไม่น่าอัศจรรย์  (แต่)   ข้อที่บัณฑิตทั้งหลายกล่าวสรรเสริญวิบาก
สมบัติ   แห่งการเห็นสมณะซึ่งเกิดจากเหตุ   เพียงศรัทธาอย่างเดียวเท่านั้น   แม้
ของสัตว์ดิรัจฉานทั้งหลาย  อย่างนี้ว่า
                        นกฮูกชื่อว่าโกสิยะนี้มีนัยน์ตากลม
                อยู่ที่ภูเขาเวทิยกะมานาน   มีความสุขหนอ
                ได้เห็นพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ    ผู้เสด็จลุก
                ขึ้นตามกาล
                        นกฮูกนั้นทำใจให้เลื่อมใสในเรา
                (ตถาคต)    ในภิกษุสงฆ์ผู้เลิศ    จะไม่ไปสู่
                ทุคติสิ้นแสนกัป
                        เคลื่อนจากเทวโลกแล้ว     อันกุศล-
                กรรมตักเตือนแล้ว      จักเป็นพระพุทธเจ้า
                ปรากฏพระนามว่า  โสมนัส   ผู้มีพระญาณ
                อันไม่สิ้นสุด  ดังนี้   (จึงเป็นสิ่งน่าอัศจรรย์)
         ชื่อว่า  การสนทนาธรรมตามกาล (กาเลน   ธมฺมสากจฺฉา) ข้าพเจ้า
จะได้กล่าวต่อไป  ในเวลาพลบค่ำ  หรือในเวลาใกล้รุ่ง    ภิกษุนักพระสูตร  ๒
รูป  สนทนาพระสูตรกัน  นักวินัย  ๒  รูป  สนทนาพระวินัยกัน   นักอภิธรรม
๒  รูป   สนทนาอภิธรรมกัน     พระภิกษุผู้กล่าวชาดก ๒ รูป   สนทนาชาดก
หน้า ๑๘๘