| บทว่า ผุฏฺสฺส ได้แก่ สัมผัส คือถูกต้อง ได้แก่ ถึงพร้อม. |
| ธรรมทั้งหลายในโลก ชื่อว่า โลกธรรม มีคำอธิบายว่า โลกยังเป็น |
| ไปอยู่ตราบใด ธรรมทั้งหลายก็ไม่หมุนกลับตราบนั้น. |
| มโน คือ มานัส ชื่อว่า จิต. |
| บทว่า ยสฺส ได้แก่ พระนวกะ หรือพระมัชฌิมะ หรือพระเถระ. |
| บทว่า น กมฺปติ ได้แก่ ไม่หวั่น ไม่สะเทือน. |
| บทว่า อโสกํ ได้แก่ไม่เศร้าโศก คือถอนลูกศรคือความโศกเสียได้. |
| บทว่า วิรชํ ได้แก่ ผู้ปราศจากราคะ คือผู้กำจัดราคะได้แล้ว. |
| บทว่า เขมํ ได้แก่ ไม่มีภัย คือไร้อุปัทวะ คำที่เหลือมีนัยดังข้าพเจ้า |
| กล่าวแล้วแล นี้เป็นการพรรณนาเฉพาะบทก่อน ส่วนการพรรณนาเนื้อความ |
| พึงทราบดังต่อไปนี้. |
| จิตของผู้ใด อันโลกธรรมทั้งหลายถูกต้องแล้ว ก็ไม่หวั่นไหว คือ |
| จิตของผู้ใด อันโลกธรรมทั้ง ๘ มีลาภเป็นต้น ถูกต้องแล้ว คือครอบงำแล้ว |
| ย่อมไม่หวั่นไหว ได้แก่ ไม่คลอนแคลน ไม่สะเทือน จิตนั้นของบุคคลนั้น |
| อันใคร ๆ ไม่พึงให้หวั่นไหวได้ เพราะนำโลกุตรมรรคมาให้. |
| ถามว่า ก็จิตของใครถูกโลกธรรมเหล่านี้ถูกต้องแล้ว ย่อมไม่หวั่นไหว. |
| ตอบว่า จิตของพระอรหันตขีณาสพ ย่อมไม่หวั่นไหว หาใช่จิต |
| ของใครอื่นไม่ สมจริงดังพระดำรัสที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า |
| ภูเขาศิลาแท่งทึบ ย่อมไม่หวั่นไหว |
| เพราะลมฉันใด รูป รส เสียง กลิ่น |