| กลัวอยู่ดุจทิ่มแทงด้วยเข็มฉะนั้น เขาจึงได้ชื่อว่า สูจิโลมยักษ์ ก็เพราะเหตุที่เขา |
| มีขนดุจเข็มนั่นเอง ด้วยประการฉะนี้. ยักษ์ทั้งสองนั่นออกจากภพของตนเพื่อ |
| ไปหากิน ไปได้ครู่เดียวก็กลับมา โดยทางที่ตนไปนั้นเอง มาถึงยังทิสาภาค |
| นอกนี้ ได้ก้าวเข้าไปในที่ไม่ไกลจากพระผู้มีพระภาคเจ้า. |
| ในคำว่า อถ โข ขโร เป็นต้น มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้. |
| ถามว่า เพราะเหตุไร ยักษ์ทั้งสองเหล่านั้นจึงได้กล่าวอย่างนี้ ? |
| ตอบว่า ขรยักษ์ได้เห็นอาการของสมณะแล้วกล่าวกะสูจิโลมยักษ์ส่วน |
| สูจิโลมยักษ์เป็นผู้มีความเห็นอย่างนี้ว่า ผู้ใดกลัวผู้นั้นหาใช่สมณะไม่ แต่จะต้อง |
| เป็นสมณะเทียม เพราะเปรียบเทียบกับสมณะ (แท้) เพราะฉะนั้น เมื่อจะ |
| ดูหมิ่นพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เช่นนั้น แม้จะกล่าวด้วยความรุนแรงว่า บุรุษผู้นี้ |
| หาใช่สมณะไม่ เขาเป็นสมณะปลอม เมื่อใคร่จะทดลองอีกจึงกล่าวว่า เราทราบ |
| อยู่เพียงไรเป็นต้น. |
| คำที่ท่านกล่าวอย่างนี้ว่า อถ โข เป็นต้น ซึ่งท่านกล่าวไว้จำเดิมแต่ |
| คำนี้ว่า สูจิโลโม ยกฺโข จนถึงคำว่า อปิจ เต สมฺผสฺโส ปาปโก |
| ก็อีกอย่างหนึ่ง สัมผัสของท่านเลว ดังนี้ เนื้อความตื้นทั้งนั้น ด้วยว่าใน |
| คำนั้น พึงทราบสัมพันธ์อย่างนี้ เพียงอย่างเดียวว่า คำว่า ภควโต กายํ |
| หมายถึงน้อมกายของตนเข้าไปหาพระผู้มีพระภาคเจ้า ก็ต่อจากนั้นสูจิโลมยักษ์ |
| เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงหวาดหวั่นอยู่ จึงกล่าวว่า "สมณะ เราจะถาม |
| ปัญหากะท่าน" ดังนี้เป็นต้น. |
| ถามว่า เพราะเหตุไร สูจิโลมยักษ์จึงถามปัญหา ? |