| ผู้พูดคำหยาบ ยินดีในการเบียดเบียน เพราะพอใจในการเบียดเบียนอันมีประ |
| การต่าง ๆ เป็นผู้ประดุจเนื้อร้าย เพราะเป็นผู้เช่นกับเนื้อร้าย เพราะไม่มีหิริ |
| โอตตัปปะ |
| บาทคาถาว่า ชีวิตํ ตสฺส ปาปิโย ความว่า ชีวิตของบุคคลนั้น คือ |
| ผู้เห็นปานนั้น เป็นบาปยิ่ง คือ เลวยิ่ง. |
| ถามว่า เพราะเหตุไร ? |
| ตอบว่า เพราะทำธุลีมีประการต่าง ๆ มีราคะเป็นต้นของตนให้เจริญ |
| ขึ้น ด้วยการปฏิบัติผิดนี้. ก็ชีวิตของบุคคลนั้นจะเป็นชีวิตที่ชั่ว ด้วยเหตุนี้ |
| อย่างเดียวเท่านั้นก็หามิได้ แต่โดยที่แท้บุคคลเห็นปานนี้ นี้ ได้แก่ภิกษุที่ |
| ยินดีในการทะเลาะ เพราะเป็นคนมีปากจัด ถูกโมหะธรรมรึงรัดแล้ว เพราะ |
| ถึงความงมงายในการที่จะรู้แจ้งซึ่งอรรถแห่งสุภาษิต ย่อมไม่ทราบแม้ซึ่งคำที่ |
| ภิกษุทั้งหลายผู้มีศีลเป็นที่รักกล่าวแล้ว โดยนัยมีอาทิอย่างนี้ว่า ท่านกปิละผู้มี |
| อายุ ท่านอย่าได้พูดอย่างนี้. จงยึดถือเรื่องนั้นโดยปริยายนี้ ไม่รู้จักพระธรรม |
| ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ คือไม่รู้จักพระธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ แม้ตน |
| จะกล่าวอยู่โดยประการต่าง ๆ แม้เมื่อเป็นอย่างนั้น ชีวิตของภิกษุนั้นชื่อว่าเป็น |
| ชีวิตชั่ว (เพราะว่า) ในครั้งนั้น ภิกษุเห็นปานนี้นั้น เพราะเหตุที่ตนพอใจใน |
| การเบียดเบียน เมื่อเบียดเบียนอยู่ซึ่งตนที่อบรมแล้ว คือว่าเบียดเบียนอยู่ซึ่ง |
| ภิกษุขีณาสพผู้มีตนอันอบรมแล้ว มีพระโสธนเถระเป็นต้น โดยนัยเป็นต้นว่า |
| " ท่านทั้งหลายซึ่งบวชเมื่อแก่เฒ่า ย่อมไม่รู้พระวินัย ไม่รู้พระสูตร ไม่รู้ |
| พระอภิธรรม" ดังนี้. |