๒๔๑    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๒๔๓
         สองบทว่า  อญฺตฺร   ตมฺหา    ความว่า   ในสมัยที่มีระดูอันใด
พราหมณ์พึงเข้าถึงนางพราหมณี  ในสมัยนั้น    คือ  เว้นซึ่งสมัยนั้น  พราหมณ์
ผู้สามีก็ไม่ร่วมกับภรรยา  ผู้เว้นแล้วจากระดู   คือผู้เว้นจากระดู  ตราบเท่าที่สมัยนั้น
ยังไม่มาถึงอีก  คือย่อมไม่ร่วมในระหว่างโดยแท้.
         บทว่า  เมถุนฺธมฺมํ  ได้แก่  เพื่อธรรมของคนคู่  กล่าวกันว่า เมถุนํ
ธมฺมํ  นั้น  เป็นทุติยาวิภัตติ  ใช้ในอรรถจตุตถีวิภัตติ.
         สองบทว่า   นาสฺสุ  คจฺฉนฺติ  ได้แก่  ย่อมไม่ถึง.
         อธิบายว่า   ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่ง  เป็นผู้เสมอด้วยเทพและมีมรรยาท
ชื่อว่า  พราหมณ์  แต่โดยไม่แปลกกัน  คนแม้ทุกจำพวกพึงสรรเสริญ
พรหมจรรย์  ฯลฯ.
         เมถุนวิรัติ   ชื่อว่า  พรหมจรรย์   ในคาถานั้น.
         สิกขาบท  ๔  ที่เหลือ  ชื่อว่า  ศีล.
         ความเป็นผู้ซื่อตรง  ชื่อว่า  อาชวะ   โดยความก็คือ  ความเป็นผู้ไม่
โอ้อวด  ความเป็นผู้ไม่มีมายา.
         ความเป็นผู้อ่อนโยน  ชื่อว่า  มัททวะ  โดยอรรถก็คือ  ความไม่แข็ง
กระด้าง   และความไม่ถือตัว.
         การสำรวมอินทรีย์  ชื่อว่า  ตปะ.
         ความเป็นผู้สงบเสงี่ยม   ความมีสุขโดยปกติ   ความประพฤติเรียบร้อย
ไม่น่ารังเกียจ  ชื่อว่า  โสรัจจะ.
         ความเป็นผู้มีชาติแห่งผู้ไม่เบียดเบียนกันด้วยฝ่ามือเป็นต้น   ความเป็น
ผู้มีกรุณา  ชื่อว่า  อวิหิงสา.
หน้า ๒๔๒