๒๔๕    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๒๔๗
         บรรดาบทเหล่านั้น  บทว่า   สุขุมาลา   ได้แก่ เป็นผู้ละเอียดอ่อน
เพราะเป็นผู้มีฝ่ามือและฝ่าเท้าอ่อนนุ่ม.
         บทว่า   มหากายา  ได้แก่ (เป็นผู้มีกายใหญ่) เพราะเป็นผู้ถึงพร้อม
ด้วยกายที่สูงและใหญ่.
         บทว่า  วณฺณวนฺโต  ได้แก่ เป็นผู้มีวรรณะ   เพราะเป็นผู้มีผิวพรรณ
เพียงดังทอง  และเพราะเป็นผู้ประกอบด้วยทรวดทรงที่สมส่วน.
                   บทว่า  ยสสฺสิโน  ได้แก่  เป็นผู้มียศ  เพราะเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยลาภ
และบริวาร  (อันเกิดจากบุญ).
         สองบทว่า  เสหิ   ธมฺเมหิ   ได้แก่  ด้วยจารีตทั้งหลายที่เป็นของตน.
         บาทคาถาว่า   กิจฺจากิจฺเจสุ  อุสฺสุกา  ความว่า  เป็นผู้ถึงความ
ขวนขวายว่า  ควรการทำสิ่งนี้ในกิจทั้งหลาย   ไม่ควรกระทำสิ่งนี้ในสิ่งที่ไม่ควร
กระทำทั้งหลาย   พราหมณ์สมัยก่อนเหล่านั้นเป็นผู้เห็นปานนั้น   จึงเป็นผู้น่าดู
น่าเลื่อมใส     ควรแก่ทักษิณาของชาวโลกอย่างยิ่ง     เป็นผู้ปราศจากความ
เสนียดจัญไร  ภัย  อุปัทวะ  ตราบเท่าที่ยังปฏิบัติด้วยข้อปฏิบัตินี้ในโลก  ซึ่งเป็น
เหตุให้หมู่สัตว์ถึงคือบรรลุถึงความสุข    หรือถึงความสุขได้แก่บรรลุถึง
ความเจริญ.
         ด้วยสองบทว่า    อยํ    ปชา    พระผู้มีพระภาคเจ้าย่อมทรงแสดงซึ่ง
สัตว์โลก.
         แต่โดยกาลล่วงไป  เมื่อพวกพราหมณ์เหล่านั้นต้องการทำลายมารยาท
(จารีตประเพณีของตน)  เสีย  ความวิปลาสก็ได้มีแก่พราหมณ์เหล่านั้น   เพราะ
หน้า ๒๔๖