๒๔๘    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๒๕๐
         สองบทว่า  มานุสํ  โภคํ  ได้แก่  วัตถุเครื่องใช้มีเครื่องเรือนเป็นต้น
ของมนุษย์ทั้งหลาย.
         บทว่า   อภิชฺฌายึสุ  ความว่า  ยังตัณหาให้เจริญ  ปรารถนาเพ่งเล็งว่า
โอหนอ  วัตถุนี้   พึงเป็นของเรา.
         พราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้นคิดว่า    ก็มนุษย์เหล่านี้   เพ่งเล็งอยู่อย่างนี้
เป็นผู้สนานดีแล้ว   ลูบไล้ดีแล้ว    ตัดผม  โกนหนวดแล้ว    สวมเครื่องประดับ
คือพวงมาลัย     บำเรออยู่ด้วยก้านคุณทั้งห้า   แต่เราทั้งหลายสิ    แม้อันมนุษย์
เหล่านั้นนอบน้อมอยู่อย่างนี้   เป็นผู้มีร่างกายเศร้าหมองด้วยคราบเหงื่อ  มีเล็บ
และขนรักแร้งอกยาว เป็นผู้ไร้โภคะ  ถึงความเป็นผู้น่าสงสารอย่างยิ่งอยู่  ก็มนุษย์
เหล่านี้   เที่ยวสัญจรไปด้วยพาหนะทั้งหลาย  มีการนั่งบนคอช้าง  นั่งบนหลังม้า
ขึ้นวอ    และนั่งรถทองคำเป็นต้น    (ฝ่าย)   พวกเราสิต้องเดินด้วยเท้า    มนุษย์
เหล่านี้อยู่บนพื้นปราสาท  มีปราสาท  ๒  ชั้นเป็นต้น   พวกเราสิอยู่ที่ในป่าและ
โคนต้นไม้เป็นต้น   และมนุษย์เหล่านี้นอนบนที่นอนอันประเสริฐซึ่งปูลาดแล้ว
ด้วยวัตถุทั้งหลายมีผ้าโกเชาว์ขนยาวเป็นต้น       พวกเราสิปูลาดเสือลำแพนและ
ท่อนหนังนอนบนพื้นดิน   ก็มนุษย์เหล่านี้บริโภคโภชนะมีรสนานาชนิด  พวกเราสิ
ยังชีวิตให้เป็นไปด้วยการเที่ยวภิกขาจาร    (อุญฺฉาจริยาย)    แม้พวกเราจะพึง
เป็นเช่นกับมนุษย์เหล่านี้     ได้อย่างไรหนอแล    ดังนี้    และได้ตกลงใจว่า  เรา
ต้องปรารถนาทรัพย์     เราทั้งหลายผู้เว้นจากทรัพย์ไม่อาจจะได้รับสมบัตินี้ได้
ดังนี้แล้วจึงทำลายเวททั้งหลาย  (ไม่เรียนพระเวท)  ทำมนต์ของเก่าซึ่งประกอบ
ด้วยธรรมให้เสื่อม (พินาศ)  ไป   แต่งมนต์หลอกลวงอันไม่ประกอบด้วยธรรม
หน้า ๒๔๙