๒๔๙    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๒๕๑
ขึ้นมา   (แทนที่)    เป็นผู้ต้องการทรัพย์     จึงได้เข้าไปหาพระเจ้าโอกกากราช
แล้วได้ประกอบกรรมทั้งหลายมีการถวายพระพรเป็นต้น      แล้วกราบทูลว่า
มหาบพิตร  อาตมาภาพทั้งหลายมีบทมนต์เก่าแก่  ซึ่งสืบต่อกันมาตามประเพณี
ในวงศ์ของพราหมณ์  พวกเราไม่ได้กล่าวมนต์นั้นแก่ใคร ๆ เพราะเป็นความลับ
ของอาจารย์ มหาบพิตรเป็นผู้สมควรจะสดับมนต์นั้น   ดังนี้แล้ว  จึงได้พรรณนา
ยัญวิธี  มีอัสสเมธะเป็นต้น  ก็ครั้นสรรเสริญแล้ว เมื่อจะให้พระราชาทรงอุตสาหะ
จึงได้ทูลว่า มหาบพิตร  ขอพระองค์จงทรงบูชายัญ  เมื่อเป็นเช่นนี้   พระองค์จะ
เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยทรัพย์และข้าวเปลือก  พระองค์ไม่มีความบกพร่องในสัมภาระ
เครื่องบูชายัญ   เพราะว่าเมื่อพระองค์ทรงบูชาอย่างนี้อยู่  วงศ์กษัตริย์ของพระ-
องค์ชั่ว  ๗  สกุล  จักบังเกิดในสวรรค์  เพราะเหตุนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อ
ทรงแสดงความเป็นไปนั้นของพราหมณ์เหล่านั้น       พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัส
ว่าพราหมณ์เหล่านั้นผูกมนต์ในที่นั้นแล้ว    ได้เข้าไปเฝ้าพระเจ้าโอกกากราชใน
กาลนั้น  กราบทูลว่า  พระองค์มีทรัพย์และข้าวเปลือกมากมาย    ขอเชิญพระองค์
ทรงบูชายัญเถิด.
         บรรดาบทเหล่านั้น     บทว่า   ตตฺถ    ได้แก่ ในที่นั้น     มีคำอธิบายว่า
พราหมณ์ทั้งหลายเพ่งเล็งโภคะใด   ได้กระทำโภคะนั้นให้เป็นเหตุ   (นิมิต).
         คำว่า   ตนฺนิมิตฺตํ  นี้เป็นสัตตมีวิภัตติ   ใช้ในอรรถว่าเหตุ   (นิมิต).
         สองบทว่า   ตทุปาคมุํ  ได้แก่  เข้าไปหาแล้วในกาลนั้น.
         บาทคาถาว่า  ปหุตธนธญฺโสิ   อธิบายว่า  พระองค์จะเป็นผู้มีทรัพย์
และข้าวเปลือกมากในสัมปรายภพ     ด้วยว่าอาจารย์ผู้ฉลาดในศัพท์ทั้งหลาย
ปรารถนากล่าวความหวัง   (ของพระราชา)  ในปัจจุบันให้เป็นไปแม้ในอนาคต.
หน้า ๒๕๐