| ขึ้นมา (แทนที่) เป็นผู้ต้องการทรัพย์ จึงได้เข้าไปหาพระเจ้าโอกกากราช |
| แล้วได้ประกอบกรรมทั้งหลายมีการถวายพระพรเป็นต้น แล้วกราบทูลว่า |
| มหาบพิตร อาตมาภาพทั้งหลายมีบทมนต์เก่าแก่ ซึ่งสืบต่อกันมาตามประเพณี |
| ในวงศ์ของพราหมณ์ พวกเราไม่ได้กล่าวมนต์นั้นแก่ใคร ๆ เพราะเป็นความลับ |
| ของอาจารย์ มหาบพิตรเป็นผู้สมควรจะสดับมนต์นั้น ดังนี้แล้ว จึงได้พรรณนา |
| ยัญวิธี มีอัสสเมธะเป็นต้น ก็ครั้นสรรเสริญแล้ว เมื่อจะให้พระราชาทรงอุตสาหะ |
| จึงได้ทูลว่า มหาบพิตร ขอพระองค์จงทรงบูชายัญ เมื่อเป็นเช่นนี้ พระองค์จะ |
| เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยทรัพย์และข้าวเปลือก พระองค์ไม่มีความบกพร่องในสัมภาระ |
| เครื่องบูชายัญ เพราะว่าเมื่อพระองค์ทรงบูชาอย่างนี้อยู่ วงศ์กษัตริย์ของพระ- |
| องค์ชั่ว ๗ สกุล จักบังเกิดในสวรรค์ เพราะเหตุนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อ |
| ทรงแสดงความเป็นไปนั้นของพราหมณ์เหล่านั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัส |
| ว่าพราหมณ์เหล่านั้นผูกมนต์ในที่นั้นแล้ว ได้เข้าไปเฝ้าพระเจ้าโอกกากราชใน |
| กาลนั้น กราบทูลว่า พระองค์มีทรัพย์และข้าวเปลือกมากมาย ขอเชิญพระองค์ |
| ทรงบูชายัญเถิด. |
| บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ตตฺถ ได้แก่ ในที่นั้น มีคำอธิบายว่า |
| พราหมณ์ทั้งหลายเพ่งเล็งโภคะใด ได้กระทำโภคะนั้นให้เป็นเหตุ (นิมิต). |
| คำว่า ตนฺนิมิตฺตํ นี้เป็นสัตตมีวิภัตติ ใช้ในอรรถว่าเหตุ (นิมิต). |
| สองบทว่า ตทุปาคมุํ ได้แก่ เข้าไปหาแล้วในกาลนั้น. |
| บาทคาถาว่า ปหุตธนธญฺโสิ อธิบายว่า พระองค์จะเป็นผู้มีทรัพย์ |
| และข้าวเปลือกมากในสัมปรายภพ ด้วยว่าอาจารย์ผู้ฉลาดในศัพท์ทั้งหลาย |
| ปรารถนากล่าวความหวัง (ของพระราชา) ในปัจจุบันให้เป็นไปแม้ในอนาคต. |