๒๕๗    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๒๕๙
         อีกอย่างหนึ่ง  ก็เหตุที่แม้ธรรมคือการให้  (ทาน)  ก็มีอยู่น้อยในธรรม
นี้  เพราะฉะนั้น   พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า  อณุธมฺโม  หมายเอาธรรม   คือ
ทานที่น้อยนั้น.
         บทว่า  ปุราโณ  ได้แก่  เป็นกาลเวลาที่ช้านานเพียงนั้น.
         บาทพระคาถาว่า  เอวํ  ธมฺเม  วิยาปนฺเน  ได้แก่  เมื่อพราหมณธรรม
อันเป็นของเก่าฉิบหายแล้วอย่างนี้  พระบาลีว่า  วิยาวตฺเต  ดังนี้ก็มี  อธิบายว่า
ได้แก่  เป็นธรรมที่เปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น.
         บาทพระคาถาว่า   วิภินฺนา  สุทฺธเวสฺสิกา  ความว่า  พวกศูทรและ
แพศย์ทั้งหลายสามัคคีกันอยู่ในกาลก่อน  พวกเขาแม้เหล่านั้นก็แตกกัน.
         บาทพระคาถาว่า  ปุถุ  วิภินฺนา  ขตฺติยา  ความว่า แม้พวกกษัตริย์
เป็นอันมาก  ก็แตกกัน.
         บาทพระคาถาว่า  ปตึ ภริยา  อวมญฺถ  ความว่า และภรรยาซึ่งสามี
ให้ดำรงอยู่ในพลังคือความเป็นใหญ่  เมื่อครองเรือน  เป็นผู้เข้าถึงแล้วด้วยพลัง
ทั้งหลาย   มีพลังแห่งบุตรเป็นต้น  ดูหมิ่น  ได้แก่ดูแคลน  คือดูถูกสามี  ได้แก่
ไม่บำรุงโดยเคารพ.
         พระคาถาว่า     ขตฺติยา   พรฺหฺมพนฺธู   จ...กามานํ   วสมาคมุํ
ความว่า     พวกกษัตริย์และพวกพราหมณ์     พวกแพศย์และศูทรอื่นใดเป็นผู้
แตกกันอย่างนี้แล้ว     ผู้ชื่อว่าอันโคตรรักษาแล้ว     เพราะอันโคตรของตน ๆ
รักษาไว้   โดยประการที่จะไม่ระคนปนกัน  (กับวรรณะอื่นนอกจากวรรณะของ
ตน) พวกชนเหล่านั้นแม้ทั้งหมด    ทำวาทะว่าชาตินั้นฉิบหายแล้ว    ได้แก่ทำ
วาทะแม้ทั้งปวงนี้ว่า  เราเป็นกษัตริย์  เราเป็นพราหมณ์  เป็นต้นให้ฉิบหายแล้ว
หน้า ๒๕๘