| เพราะเหตุไร ท่านไม่มีแม้สักว่าความบันเทิงในการชมฟ้อนรำเป็นต้น เขาได้ |
| บอกเนื้อความนั้นแก่โกลิตะนั้น แล้วได้ถามเนื้อความแม้เช่นเดียวกันนั้น แม้ |
| โกลิตะนั้นก็ได้นอกความเป็นไปของตนแก่อุปติสสะนั้น แล้วกล่าวต่อไปว่า มา |
| เถิดสหาย เราจักไปบวชแล้วแสวงหาอมตธรรมกันเถิด. อุปติสสะตอบรับว่า |
| ดีแล้วเพื่อน ต่อจากนั้นสหายทั้งสองได้สละสมบัตินั้นแล้ว ได้เดินทางมาถึง |
| กรุงราชคฤห์โดยลำดับอีก. |
| โดยสมัยนั้นแล ปริพาชก ชื่อว่า สัญชัย อาศัยอยู่ในกรุงราชคฤห์. |
| สหายทั้งสองนั้น พร้อมด้วยมาณพบริวารคนละ ๕๐๐ บวชในสำนักของสัญชัย |
| นั้น โดย ๒-๓ วันเท่านั้น ก็เรียนจบไตรเพท และลัทธิของปริพาชกทั้งหมด |
| สหายทั้งสองนั้น เมื่อเข้าไปพิจารณาถึงเบื้องต้นและท่ามกลางและที่สุดของศา- |
| สตร์ทั้งหลายเหล่านั้นก็ไม่เห็นที่สุด จึงได้ถามอาจารย์ว่า เบื้องต้นและท่ามกลาง |
| แห่งศาสตร์ทั้งหลายเหล่านี้ปรากฏอยู่. แต่ที่สุดไม่ปรากฏ เพราะสิ่งที่บุคคลจะ |
| พึงบรรลุให้ยิ่งขึ้นด้วยคิดว่า ตนจะพึงบรรลุสิ่งชื่อนี้ได้ด้วยศาสตร์เหล่านี้ ดังนี้ |
| ย่อมไม่มี แม้อาจารย์สัญชัยนั้นก็กล่าวว่า แม้เราเองก็ไม่เห็นที่สุดแห่งศาสตร์ |
| เหล่านี้เช่นนั้นเหมือนกัน. สหายทั้งสองนั้นจึงพูดกันว่า ถ้าอย่างนั้น พวกเราจะ |
| แสวงหาที่สุดแห่งศาสตร์เหล่านั้น อาจารย์จึงพูดกะพวกเขาว่า พวกเธอพึงแสวง |
| หาตามสบายเถิด. สหายทั้งสองนั้นอันอาจารย์สัญชัยนั้นอนุญาตแล้วอย่างนี้ เมื่อ |
| จะแสวงหาอมตธรรม เที่ยวไปอยู่ เป็นผู้ปรากฏแล้วในชมพูทวีป ชนทั้งหลาย |
| มีกษัตริย์และบัณฑิตเป็นต้น อันสหายทั้งสองเหล่านั้นถามแล้ว ก็ตอบให้ |
| แจ่มแจ้งยิ่งขึ้นไม่ได้ แต่เมื่อชนทั้งหลายพูดว่า อุปติสสะ โกลิตะ ชนเหล่าใด |
| ที่พูดว่า พวกเราไม่รู้จักท่านทั้งสองนั้นเลย ดังนี้ย่อมไม่มี สหายทั้งสองจึง |
| เป็นผู้ปรากฏ (เป็นที่รู้จักกัน ) อย่างนี้. |