๒๖๔    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๒๖๖
         เมื่อสหายทั้งสองเหล่านั้น    เที่ยวแสวงหาอมตธรรมอยู่อย่างนี้  พระผู้มี
พระภาคเจ้าของเราทั้งหลาย  ทรงอุบัติขึ้นแล้วในโลก   ทรงแสดงธรรมจักรอัน
ประเสริฐแล้ว     ได้เสด็จไปยังกรุงราชคฤห์โดยลำดับ     ก็ปริพาชกทั้งสองนั้น
เที่ยวไปยังชมพูทวีปทั้งสิ้น    การท่องเทียวไปขอพักไว้ก่อน    เมื่อไม่ได้อมต-
ธรรม  โดยที่สุดแม้สักว่าการตอบปัญหาเกี่ยวกันที่สุด   จึงได้ไปยังกรุงราชคฤห์
อีก.   เรื่องทั้งหมด   นับตั้งแต่ข้อความที่ว่า   ครั้งนั้นแล   พระอัสสชิผู้มีอายุ
นุ่งห่มแล้วในเวลาเช้าดังนี้เป็นต้น  จนถึงกาลที่สหายทั้งสองนั้นได้บรรพชา  พึง
ทราบโดยพิสดารโดยนัยที่มาแล้วในบรรพชาขันธกะ.
         เมื่อสหายทั้งสองเหล่านั้นบวชแล้วอย่างนี้   ท่านพระสารีบุตรได้กระทำ
ให้แจ้งซึ่งสาวกบารมีญาณ  โดยระยะกาลกึ่งเดือน  พระสารีบุตรนั้น  เมื่อใดอยู่
ในวิหารเดียวกันกับพระอัสสชิเถระ   เมื่อนั้น   ท่านไปสู่ที่อุปัฏฐากของพระผู้มี
พระภาคเจ้าแล้ว    ต่อจากนั้นก็ไปสู่ที่อุปัฏฐากพระเถระด้วยความเคารพว่า  พระ
ผู้มีอายุนี้เป็นบุรพาจารย์ของเราทั้งหลาย   เราได้อาศัยท่านผู้มีอายุนี้   จึงได้รู้คำ
สอนของพระพุทธเจัา   เเต่ว่าเมื่อใดท่านมิได้อยู่ในวิหารเดียวกันกับพระอัสสชิ-
เถระ   เมื่อนั้นพระเถระอยู่  ณ  ทิศใด    ท่านก็หันหน้าไปยังทิศนั้น     ไหว้ด้วย
เบญจางคประดิษฐ์   แล้วประคองอัญชลีนมัสการ  ภิกษุทั้งหลายเห็นการกระทำ
นั้นแล้ว   จึงสนทนากันว่า    พระสารีบุตรเป็นถึงอัครสาวก    ยังไหว้ทิศอยู่แม้
ทุกวันนี้  ท่านเห็นจะยังละทิฏฐิของพวกพราหมณ์ไม่ได้.
         ครั้งนั้น  พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสดับเสียงสนทนานั้น  ด้วยโสตธาตุอัน
เป็นทิพย์.   เมื่อทรงแสดงพระองค์ผู้นั่งอยู่   บนพุทธอาสน์อันบวรที่เขาปูลาดไว้
หน้า ๒๖๕