| แล้วนั้นแล ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาว่า ภิกษุทั้งหลาย เดี๋ยวนี้เธอทั้งหลายนั่ง |
| สนทนากันด้วยเรื่องอะไร. ภิกษุทั้งหลายเหล่านั้นได้ทูลบอกความเป็นไปนั้น. |
| ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย พระสารีบุตรหาได้นอบ |
| น้อมทิศไม่ เธอได้รู้พระศาสนาเพราะอาศัยผู้ใด เธอจึงได้ไหว้นมัสการนอบ |
| น้อมผู้นั้น ซึ่งเป็นอาจารย์ของตน ภิกษุทั้งหลาย สารีบุตรเป็นผู้บูชาอาจารย์ |
| ดังนี้แล้ว เพื่อจะแสดงธรรมแก่ภิกษุทั้งหลายผู้ประชุมกันแล้วในที่นั้น จึงได้ |
| ตรัสพระสูตรนี้. |
| ในบรรดาบททั้งหลายเหล่านั้น บาทพระคาถาว่า ยสฺมา หิ ธมฺมํ |
| ปุริโส วิชญฺา ความว่า บุคคลฟังแล้วซึ่งปริยัติธรรม อันต่างด้วยปิฎกสาม |
| หรือว่าฟังแล้วซึ่งปฏิเวธธรรมอันต่างโดยโลกุตรธรรมเก้า ที่บุคคลฟังปริยัติ- |
| ธรรมแล้วจะพึงบรรลุ จากบุคคลใด คือพึงรู้แจ้งคือว่าพึงทราบ. |
| พระบาลีว่า วิเทยฺย ดังนี้ก็มี เนื้อความนั้นก็เหมือนกัน. |
| บาทคาถาว่า อินฺทํว นํ เทวตา ปูชเยยฺย ความว่า เทวดาทั้ง |
| หลายในเทวโลกทั้งสอง ย่อมบูชาท้าวสักกะจอมเทพฉันใด บุคคลนั้นลุกขึ้น |
| แต่เช้าตรู่แล้ว เมื่อกระทำวัตรปฏิบัติทั้งปวง มีการถอดรองเท้าเป็นต้น พึง |
| บูชา ได้แก่ พึงสักการะ เคารพบุคคลนั้น. |
| ถามว่า เพราะเหตุไร ? |
| ตอบว่า อาจารย์นั้นผู้เป็นพหูสูตอันอันเตวาสิกบูชาแล้ว มีจิตเลื่อมใส |
| ในอันเตวาสิกนั้น ย่อมชี้แจงธรรมให้แจ่มเเจ้ง. |