๒๖๗    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๒๖๙
         พระผู้มีพระภาคเจ้า  ครั้นทรงสรรเสริญ   การคบอาจารย์ที่เป็นบัณฑิต
อย่างนี้แล้ว    บัดนี้    เมื่อจะติเตียนการคบอาจารย์ที่โง่เขลา  จึงตรัสคาถานี้ว่า
ขุทฺทญฺจ  พาลํ  เป็นต้น.
         บรรดาบทเหล่านั้น     บทว่า  ขุทฺทํ  ความว่า   ซึ่งอาจารย์ผู้ประกอบ
ด้วยกายกรรมเป็นต้นอันเล็กน้อย   ชื่อว่า  ผู้โง่   (พาล)   เพราะไม่มีปัญญา.
         บทว่า  อนาคตตฺถํ  ความว่า   ผู้มีประโยชน์   คือปริยัติและปฏิเวธ
อันตนไม่บรรลุแล้ว.
         บทว่า  อุสุยฺยกํ   ได้แก่ ผู้ชื่อที่อดทนไม่ได้อยู่   ซึ่งความเจริญของ
อันเตวาสิก  เพราะความเป็นผู้ริษยา.  คำที่เหลือในคาถานี้   โดยบท  (คือโดย
พยัญชนะ)   ก็ปรากฏชัดแล้วทั้งนั้น     แต่โดยอธิบาย   พึงทราบเนื้อความแห่ง
พระคาถานั้นอย่างนี้ว่า    อาจารย์ใดมักจะได้บริขารทั้งหลาย    มีจีวรเป็นอัน
มากเป็นต้น     ก็ไม่สามารถเพื่อจะให้จีวรเป็นต้น     (หรือว่าย่อมไม่ให้แม้สักว่า
คำว่า อนิจจัง  ทุกขัง  อนัตตา) ในธรรมทานแก่อันเตวาสิกทั้งหลาย  อันเตวาสิก
ซ่องเสพอยู่   ซึ่งอาจารย์นั้น    ผู้ประกอบด้วยธรรมน้อย   เพราะเป็นผู้ประกอบ
ด้วยธรรมมีความเป็นธรรมน้อยเป็นต้นเหล่านี้   ผู้โง่เขลา    ผู้ไม่ได้บรรลุประ-
โยชน์  ผู้ริษยา  แม้ตนของก็จะกลายเป็นคนโง่   (ไปด้วย)   โดยนัยที่ท่านกล่าว
ไว้ว่า   บุคคลห่อปลาเน่าด้วยหญ้าคา   ดังนี้เป็นต้น  เพราะฉะนั้น  บุคคลนั้น
ไม่กระทำให้แจ่มแจ้ง     และไม่ทราบปริยัติธรรม     หรือปฏิเวธธรรมอะไร ๆ
แม้มีประมาณน้อยในศาสนานี้       ทั้งยังข้ามความสงสัยในธรรมทั้งหลายไม่ได้
ย่อมเข้าถึงความตาย.
หน้า ๒๖๘