| ธรรม ไม่พึงประพฤติถ้อยคำที่ประทุษร้าย |
| ธรรมเลย พึงให้กาลสิ้นไปด้วยภาษิตที่แท้. |
| นรชนละความรื่นเริง การพูดกระ- |
| ซิบ ความร่ำไร ความประทุษร้าย ความ |
| หลอกลวงที่ทำด้วยมารยา ความยินดี ความ |
| ถือตัว ความแข่งดี ความหยาบคาย และ |
| ความหมกมุ่นด้วยกิเลสดุจน้ำฝาด พึงเป็นผู้ |
| ปราศจากความมัวเมา ดำรงในนั้น เที่ยวไป. |
| นรชนเป็นนี้ รู้แจ่งสุภาษิตที่เป็น |
| สาระ รู้แจ้งสูตรและสมาธิที่เป็นสาระ |
| ปัญญาและสุตะ ย่อมไม่เจริญแก่นรชนผู้เป็น |
| คนผลุนผลัน เป็นคนประมาท. |
| ส่วนนรชนเหล่าใด ยินดีแล้วใน |
| ธรรมที่พระอริยเจ้าประกาศแล้ว นรชน |
| เหล่านั้น เป็นผู้ประเสริฐ ว่าสัตว์ที่เหลือด้วย |
| วาจา ด้วยใจ และการงาน นรชนเหล่านั้น |
| ดำรงอยู่ด้วยดีแล้วในสันติ โสรัจจะ และ |
| สมาธิ ได้บรรลุถึงธรรมอันเป็นสาระแห่งสติ |
| และปัญญา. |
| จบกิงสีลสูตรที่ ๙ |