| งูที่ถูกเขาถอนเขี้ยวออกเสียแล้ว พึงเข้าไปหา ลำดับนั้น ก็พึงอนุสรณ์ถึง |
| อรรถ ธรรม ความสำรวม พรหมจรรย์ และพึงประพฤติโดยเอื้อเฟื้อ ซึ่ง |
| (คำที่) ครูนั้นกล่าวแล้ว. |
| บทว่า อตฺถํ ได้แก่ เนื้อความแห่งภาษิต. |
| บทว่า ธมฺมํ ได้แก่ ธรรมคือบาลี. |
| บทว่า สํยมํ ได้แก่ ศีล. |
| คำว่า พฺรหฺมจริยํ ได้แก่ ศาสนพรหมจรรย์ที่เหลือ. |
| บาทคาถาว่า อนุสฺสเร เจว สมาจเร จ ความว่า พึงระลึกถึง |
| โอกาสที่อาจารย์นั้นกล่าวถึงธรรมะ ความสำรวม (และ) พรหมจรรย์ และไม่ |
| ใช่พอใจด้วยเหตุสักว่าระลึกถึงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่พึงประพฤติเอื้อเฟื้อ |
| คือประพฤติชอบ สมาทานวัตรปฏิบัติแม้ทั้งหมดนั้นให้เป็นไป อธิบายว่าพึง |
| กระทำการขวนขวายในการทำให้กถาเหล่านั้นเป็นไปในตน ด้วยว่าบุคคลเมื่อ |
| กระทำอยู่อย่างนี้ ชื่อว่ากระทำสิ่งที่ควรทำ ก็เบื้องหน้าต่อแต่นั้นไป บุคคล |
| นั้น ชื่อว่า มีธรรมเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในธรรม ดำรงอยู่แล้วในธรรม |
| พึงเป็นผู้วินิจฉัยธรรม. |
| ก็คำว่า ธรรม ในบททั้งปวงในคาถานี้ ได้แก่สมถะและวิปัสสนา |
| ก็คำว่า อาราโม และ คำว่า รติ มีเนื้อความอันเดียวกัน ความยินดี |
| รื่นรมย์ในธรรมของบุคคลนั้นมีอยู่ เหตุนั้นบุคคลนั้น ชื่อว่า ธมฺมาราโม ผู้ |
| มีธรรมเป็นที่มายินดี. |
| บุคคลยินดีแล้วในธรรม ชื่อว่า ธมฺมรโต หาใช่ยินดีสิ่งอื่นไม่. |