๒๗๘    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๒๘๐
งูที่ถูกเขาถอนเขี้ยวออกเสียแล้ว    พึงเข้าไปหา    ลำดับนั้น   ก็พึงอนุสรณ์ถึง
อรรถ  ธรรม   ความสำรวม  พรหมจรรย์  และพึงประพฤติโดยเอื้อเฟื้อ   ซึ่ง
(คำที่)  ครูนั้นกล่าวแล้ว.
         บทว่า  อตฺถํ  ได้แก่  เนื้อความแห่งภาษิต.
         บทว่า   ธมฺมํ  ได้แก่  ธรรมคือบาลี.
         บทว่า  สํยมํ  ได้แก่  ศีล.
         คำว่า  พฺรหฺมจริยํ  ได้แก่ ศาสนพรหมจรรย์ที่เหลือ.
         บาทคาถาว่า   อนุสฺสเร  เจว สมาจเร  จ  ความว่า   พึงระลึกถึง
โอกาสที่อาจารย์นั้นกล่าวถึงธรรมะ  ความสำรวม (และ) พรหมจรรย์   และไม่
ใช่พอใจด้วยเหตุสักว่าระลึกถึงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น    แต่พึงประพฤติเอื้อเฟื้อ
คือประพฤติชอบ   สมาทานวัตรปฏิบัติแม้ทั้งหมดนั้นให้เป็นไป    อธิบายว่าพึง
กระทำการขวนขวายในการทำให้กถาเหล่านั้นเป็นไปในตน    ด้วยว่าบุคคลเมื่อ
กระทำอยู่อย่างนี้   ชื่อว่ากระทำสิ่งที่ควรทำ   ก็เบื้องหน้าต่อแต่นั้นไป    บุคคล
นั้น  ชื่อว่า  มีธรรมเป็นที่มายินดี    ยินดีแล้วในธรรม   ดำรงอยู่แล้วในธรรม
พึงเป็นผู้วินิจฉัยธรรม.
         ก็คำว่า    ธรรม   ในบททั้งปวงในคาถานี้   ได้แก่สมถะและวิปัสสนา
         ก็คำว่า  อาราโม  และ  คำว่า  รติ  มีเนื้อความอันเดียวกัน  ความยินดี
รื่นรมย์ในธรรมของบุคคลนั้นมีอยู่  เหตุนั้นบุคคลนั้น  ชื่อว่า  ธมฺมาราโม  ผู้
มีธรรมเป็นที่มายินดี.
         บุคคลยินดีแล้วในธรรม  ชื่อว่า   ธมฺมรโต  หาใช่ยินดีสิ่งอื่นไม่.
หน้า ๒๗๙