| พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอทราบไหมว่าใครทำ |
| ให้หวั่นไหว ภิกษุทั้งหลายทูลว่า ข้าพระองค์ทั้งหลาย ไม่ทราบ พระเจ้าข้า. |
| ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย ปราสาทหลังนี้ |
| โมคคัลลานะทำให้หวั่นไหว เพื่อจะทำบุคคลเช่นกับพวกเธอ ซึ่งมีสติหลงลืม |
| ไร้สัมปชัญญะ อยู่ด้วยความประมาท ให้สังเวช แล้วจึงได้ตรัสพระสูตรนี้ |
| เพื่อทรงแสดงพระธรรมแก่ภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น. |
| บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อุฏฺหถ ความว่า ท่านทั้งหลายจงลุก |
| ขึ้นจากอาสนะ. คือว่า จงเพียร พยายาม คือว่า อย่าเกียจคร้าน. |
| บทว่า นิสีทถ ความว่า ท่านทั้งหลายจงนั่งคู้บัลลังก์ เพื่อตามประกอบ |
| กรรมฐาน. |
| บาทพระคาถาว่า โก อตฺโถ สุปิเตน โว ความว่า ท่านทั้งหลาย |
| ซึ่งบวชแล้ว เพื่ออนุปาทาปรินิพพาน จะได้ประโยชน์อะไรด้วยการหลับ คือว่า |
| ไม่มีใครสามารถ จะบรรลุถึงประโยชน์ได้ด้วยการหลับ. |
| บาทพระคาถาว่า อาตุรานํ หิ กา นิทฺทา สลฺลวิธาน รุปฺปตํ |
| ความว่า ก็ชื่อว่าในที่ใด ความหลับย่อมไม่มีแก่มนุษย์ทั้งหลาย ผู้ทุรนทุราย |
| ด้วยโรค มีโรคตาเป็นต้น ซึ่งตั้งขึ้นแล้ว ที่ส่วนแห่งร่างกายแม้เล็กน้อย ผู้ถูก |
| ลูกศรชนิดใดชนิดหนึ่ง ในบรรดาลูกศรเหล็ก ลูกศรกระดูก ลูกศรงา (ฟัน) |
| ลูกศรเขา และลูกศรไม้ ซึ่งเข้าไปสู่ร่างกาย แม้สักว่านิ้วเดียว หรือสองนิ้ว |
| ก็ในที่นั้น ท่านทั้งหลาย ซึ่งมีจิตและร่างกายอยู่ทั้งสิ้น ผู้บริโภคแล้ว กระวน |
| กระวายอยู่ ด้วยโรคคือกิเลสนานัปการ ซึ่งบังเกิดขึ้นแล้ว และผู้ชื่อว่าถูกลูกศร |