| แทงแล้ว เพราะถูกลูกศร ๕ ชนิด มีลูกศรคือ ราคะเป็นต้น เสียบแทงเข้า |
| ไปในหทัยแล้ว ย่อยยับอยู่ จะมีการหลับได้อย่างไร. |
| พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นตรัสดังนี้ แล้วเพื่อจะทำภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น |
| ให้อุตสาหะ และให้สังเวชยิ่ง ๆ ขึ้นอีก จึงได้ตรัสว่า อุฏฺหถ ฯเปฯ |
| วสานุเค ดังนี้. |
| ในพระคาถานั้น มีการพรรณนาเนื้อความพร้อมทั้งอธิบายและโยชนา |
| ดังต่อไปนี้ :- |
| ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อเธอทั้งหลายถูกลูกศรคือกิเลสเสียบแทงแล้ว |
| อย่างนี้ จะมีเวลามัวเมาประมาทอยู่เพราะเหตุไร ภิกษุทั้งหลาย พระศาสดา |
| (ทรงประกาศพรหมจรรย์) ที่ยอดเยี่ยมที่สุดนี้มาอยู่เฉพาะหน้า (ของท่าน |
| ทั้งหลาย) ด้วยว่าในกาลก่อนแต่กาลนี้ เธอทั้งหลายหลับแล้ว อยู่ที่ภูเขาทั้งหลาย |
| และแน่น้ำเป็นเวลานาน หลับแล้วที่ยอดไม้อันไม่เสมอกัน ก็เพราะเหตุที่ไม่ |
| เห็นอริยสัจทั้งหลาย เพื่อทำที่สุดแห่งความหลับนั้น เธอทั้งหลายจงลุกขึ้นเถิด |
| จงนั่ง และศึกษาเพื่อสันติให้มั่นคง เนื้อความในบาทแห่งพระคาถานั้นนัย |
| อันข้าพเจ้ากล่าวแล้วนั้นแล. |
| ส่วนคำว่า สนฺติ ในบาทที่สอง หมายถึงสันติ ๓ อย่างคือ อัจจันต- |
| สันติ (สันติอย่างสูงสุด) ๑ ตทังคสันติ (สันติด้วยองค์นั้น ) ๑ สมมติสันติ ๑ |
| (สันติตามสมมติ) |
| คำว่า สันติ นี้เป็นชื่อแห่งพระนิพพาน วิปัสสนา และทิฏฐิคตะ แต่ |
| ในที่นี้พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายถึง อัจจันสันติ คือพระนิพพาน พระผู้มี |