๒๙๕    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๒๙๗
         พระผู้มีพระภาคเจ้า   ได้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณแล้ว   ได้เสด็จจากควง
ต้นโพธิ  ไปยังกรุงกบิลพัสดุ์โดยลำดับ  ณ กรุงกบิลพัสดุ์นั้น   พระราหุลได้ทูล
ขอความเป็นรัชทายาทว่า     ข้าแต่พระสมณะ     ขอพระองค์จงทรงประทาน
ความเป็นรัชทายาทแก่กระหม่อมฉัน    ดังนี้  จึงได้รับสั่งแก่พระสารีบุตรเถระว่า
เธอจงให้ราหุลกุมารบรรพชา     เรื่องทั้งปวงนั้น     บัณฑิตพึงทราบโดยนัยที่
ข้าพเจ้ากล่าวไว้แล้ว   ในอรรถกถาขันธกะ  (พระวินัย)  ก็พระราหุลได้บรรพชา
แล้วอย่างนี้   ถึงความเจริญแล้ว   พระสารีบุตรนั้นแล   ก็ได้ให้อุปสมบท  ส่วน
พระโมคคัลลานเถระเป็นกรรมวาจาจารย์ของพระราหุลนั้น.
         พระราหุลเถระ   ยังไม่ได้บรรลุอริยภูมิตราบใด   พระผู้มีพระภาคเจ้าก็
ทรงโอวาทพระเถระนั้น   ตราบนั้น  ตั้งแต่กาลที่ท่านยังเป็นหนุ่ม  ด้วยทรงพระ-
ดำริว่า  กุมารนี้    สมบูรณ์ด้วยชาติเป็นต้น     กุมารนั้นอย่าได้ทำการถือตัวหรือ
การหยิ่งเพราะอาศัย  ชาติ  โคตร   ตระกูล   และผิวพรรณเป็นต้น    ดังนี้แล้ว
จึงได้ตรัสพระสูตรนี้บ่อย ๆ เพราะฉะนั้น  ก็คำว่า  ได้ยินว่าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสสอนท่านพระราหุลเถระ   ด้วยพระคาถาเหล่านี้เนือง ๆ  ด้วยประการฉะนี้
ดังนี้   นี้    พระอานนทเถระกล่าวไว้แล้ว  ในที่สุดแห่งพระสูตร.
         ความย่อในคาถาที่  ๑  ในราหุลสูตรนั้น     มีดังต่อไปนี้.
         พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสหมายเอาท่านพระสารีบุตรว่า    ดูก่อนราหุล
เธอไม่ได้ดูหมิ่นบัณฑิต      ด้วยเรื่องมีชาติเป็นต้นอย่างใดอย่างหนึ่ง     เพราะ
เหตุที่อยู่ร่วมกันเป็นนิจแลหรือ  ชื่อว่าการทรงไว้ซึ่งคบเพลิง  เพราะการทรงไว้
หน้า ๒๙๖