๓๐๐    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๓๐๒
สมาทานธุดงค์  ๒   ข้อที่เกี่ยวกับ  จีวร   คือ  ปังสุกูลิกังคธุดงค์  ๑   เตจีวริกังค-
ธุดงค์  ๑.
         ท่านพระราหุลนั้นทราบว่า   พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะเราว่า  เธอ
อย่าได้กระทำความอยากในบิณฑบาต   จึงได้สมาทานธุดงค์  ๕   ข้อที่เกี่ยวกับ
บิณฑบาตคือ  ปิณฑปาติกังคธุดงค์ ๑   สปทานจาริกังคธุดงค์  ๑  เอกาสนิกังค
 ธุดงค์  ๑  ปัตตปิณฑิกังคธุดงค์  ๑  ขลุปัจฉาภัตติกังคธุดงค์  ๑.
         ท่านพระราหุลนั้นทราบว่า  พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกะเราว่า  เธออย่า
ได้ทำความอยากในเสนาสนะดังนี้   จึงได้สมาทานธุดงค์  ๖ ข้อ  ที่เกี่ยวข้องด้วย
เสนาสนะคือ  อารัญญิกังคธุดงค์  ๑  อัพโภกาสิกังคธุดงค์  ๑  รุกขมูลิกังคธุดงค์
๑ ยถาสันถติกังคธุดงค์ ๑  โสสานิกังคธุดงค์  ๑   เนสัชชิกังคธุดงค์  ๑.
         ท่านพระราหุลนั้นทราบว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกะเราว่า    เธออย่า
ได้กระทำความอยากในคิลานปัจจัย    จึงเป็นผู้สันโดษแล้วด้วยความสันโดษ ๓
ในปัจจัยทั้งปวงคือ    ยถาลาภสันโดษ    ยถาพลสันโดษ     ยถาสารุปปสันโดษ
เป็นผู้มีปกติรับคำสอนด้วยความเคารพ  เหมือนกุลบุตรที่ว่าง่าย.
         พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นทรงให้ท่านพระราหุลสมาทานด้วยอาชีวปาริ-
สุทธิศีลแล้ว     บัดนี้    เมื่อจะให้ท่านสมาทานในศีลที่เหลือ   และในสมถะและ
วิปัสสนาทั้งหลายจึงตรัสว่า  สํวุโต  ปาติโมกฺขสฺมึ  ดังนี้เป็นต้น.
         ในบรรดาบททั้งหลายเหล่านั้น  ในบาทคาถานี้ว่า  สํวุโต  ปาติโมกฺ-
ขสฺมึ   พึงเพิ่มบาลีที่เหลือเข้าว่า   ภวสฺสุ   หรือพึงทราบสัมพันธ์ด้วยบทสุด
ท้ายว่า  ในบาทคาถาที่  ๒  ก็พึงเติมบาลีที่เหลือเข้าเช่นเดียวกัน.
         พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงชักชวนท่านพระราหุล   ในปาติโมกขสังวรศีล
และอินทริยสังวรศีล  ด้วยพระดำรัส  ๒  อย่างเหล่านี้   อย่างนี้. ก็ในพระคาถาว่า
หน้า ๓๐๑