| ได้ยินว่า วังคีสะนั้นเป็นบุตรของปริพพาชก เกิดในครรภ์ของนาง |
| ปริพพาชิกา ด้วยอานุภาพแห่งวิชาอย่างหนึ่งซึ่งตนรู้ ได้เคาะกระโหลกศีรษะ |
| คนตาย แล้วก็รู้คติกำเนิดของสัตว์ทั้งหลาย. ได้ยินว่า แม้พวกมนุษย์ก็ได้นำ |
| กระโหลกศีรษะของพวกญาติของตน ซึ่งตายแล้วมาจากป่าช้า แล้วถามคติ |
| กำเนิดของญาติเหล่านั้นกะวังคีสะ ท่านก็ทำนายว่า บุคคลผู้นั้นเกิดในนรก |
| ชื่อโน้น บุคคลผู้นั้นเกิดในมนุษยโลกที่โน้น พวกมนุษย์เหล่านั้น อันพระ- |
| วังคีสะนั้นทำนายแล้ว (ทำให้งงงวยแล้ว) จึงได้ให้ทรัพย์เป็นจำนวนมากแก่เขา |
| ด้วยอาการอย่างนี้ เขาจึงได้ปรากฏ (มีชื่อเสียง) ไปในชมพูทวีปทั้งสิ้น |
| วังคีสะนั้นบำเพ็ญบารมีมาแล้ว ๑ แสนกัป บริบูรณ์ด้วยอภินีหาร มีบุรุษ |
| ห้าพันคนแวดล้อม ท่องเที่ยวไปในคาม นิคม ชนบท และราชธานีทั้งหลาย |
| ได้บรรลุถึงเมืองสาวัตถีโดยลำดับ ก็โดยสมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า |
| ประทับอยู่ที่เมืองสาวัตถี พวกชาวเมืองสาวัตถีถวายทานในเวลาก่อนภัตแล้ว |
| ในเวลาหลังภัตต่างก็นุ่งห่มเรียบร้อย ถือดอกไม้และของหอมเป็นต้น ย่อมไป |
| สู่พระเชตวันเพื่อฟังธรรม วังคีสะนั้นเห็นชาวเมืองเหล่านั้นแล้วก็ถามว่า |
| มหาชนพากันไปไหน. |
| ครั้งนั้นชนเหล่านั้นก็บอกเขาว่า พระพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้นแล้วในโลก |
| กำลังทรงแสดงธรรม เพื่อประโยชน์สุขแก่ชนเป็นอันมาก พวกเราจะไปใน |
| ที่นั้น แม้วังคีสะนั้นพร้อมกับคนเหล่านั้นรวมทั้งบริวารของตนไปแล้ว ปราศรัย |
| กับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว นั่งแล้ว ณ ส่วนข้างหนึ่ง. ครั้งนั้น พระผู้มี |
| พระภาคเจ้าตรัสเรียกวังคีสะนั้นว่า ดูก่อนวังคีสะ เธอรู้วิชาที่เคาะกระโหลก |