๓๑๒    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๓๑๔
ศีรษะของมนุษย์ทั้งหลายแล้ว    บอกคติกำเนิดได้หรือ   ดังนี้   วังคีสพราหมณ์
ทูลว่า    ข้าแต่พระสมณโคดมผู้เจริญ    ข้าพระองค์ย่อมทราบอย่างนี้    พระผู้มี
พระภาคเจ้ารับสั่งให้นำศีรษะของมนุษย์ผู้เกิดแล้วในนรกมาแล้ว     ทรงแสดง
(แก่วังคีสพราหมณ์นั้น)     เขาใช้เล็บเคาะแล้วทูลว่า     ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ
นี้เป็นศีรษะของผู้เกิดในนรก     พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงแสดงศีรษะทั้งหลาย
ของมนุษย์ทั้งหลาย    ผู้เกิดแล้วในคติทั้งปวงโดยอาการอย่างนี้   แม้เขาก็ทราบ
และได้กราบทูลเหมือนอย่างนั้น    ทีนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงศีรษะของ
พรขีณาสพแก่เขา  เขาเคาะแล้วบ่อย ๆ ก็ไม่ทราบ  (ว่าไปเกิดที่ไหน)  ลำดับนั้น
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า  ดูก่อนวังคีสะ  ในศีรษะนี้ไม่ใช่วิสัยของเธอ  นี้เป็น
วิสัยของเรา  นี้คือศีรษะของพระขีณาสพ   แล้วจึงตรัสพระคาถานี้ว่า
                คติ  มิคานํ   ปวนํ        อากาโส  ปกฺขินํ   คติ
                วิภโว  คติ   ธมฺมานํ      นิพฺพานํ  อรหโต  คติ.
                        ป่าใหญ่เป็นคติของเนื้อทั้งหลาย
                อากาศเป็นคติของนกทั้งหลาย  ความเจริญ
                เป็นคติของธรรมทั้งหลาย   นิพพานเป็นคติ
                ของพระอรหันต์   ดังนี้.
         วังคีสะสดับคาถาแล้วทูลว่า   ข้าแต่ท่านพระโคดมผู้เจริญ  ขอพระองค์
จงให้วิชชานี้แก่ข้าพระองค์   พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า    วิชชานี้มิได้สำเร็จแก่
ชนทั้งหลายผู้ไม่บวช.  วังคีสะนั้นทูบว่า  ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ   พระองค์ให้ข้า
พระองค์บวชแล้ว  จงการทำสิ่งที่พระองค์ต้องการ เเล้วให้วิชชานี้  แก่ข้าพระองค์
หน้า ๓๑๓