| สองบทว่า นมสฺสํ อจรึ ความว่า นมัสการอยู่แล้ว. |
| บทว่า มุตฺยเปกฺโข ความว่า หวังวิมุตติกล่าวคือพระนิพพาน |
| อธิบายว่า ปรารถนาพระนิพพาน. |
| พระวังคีสะเรียกพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ทฬฺหธมฺมทสฺสี จริงอยู่ |
| พระนิพพานชื่อว่าเป็นธรรมที่มั่นคง เพราะอรรถว่าไม่แตก ก็พระผู้มีพระภาค |
| เจ้า ย่อมทรงแสดงพระนิพพานนั้น เพราะเหตุนั้น พระวังคีสะจึงเรียก |
| พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นว่า ทฬฺหธมฺมทสฺสี ผู้แสดงธรรมอันมั่นคง. |
| แม้ด้วยบทว่า สกฺกา พระวังคีสะ ย่อมเรียกพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น |
| แล ด้วยคุณนาม. |
| ด้วยสองบทว่า มยมฺปิ สพฺเพ พระวังคีสู่สงเคราะห์บริษัทที่เหลือ |
| แล้ว แสดงซึ่งตน ย่อมร้องเรียก. |
| แม้ด้วยบทว่า สมนฺตจกฺขุ ท่านก็เรียกพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นแล |
| ด้วยสัพพัญญุตญาณ. |
| บทว่า สมฺมวฏฺิตา ได้แก่ ตั้งไว้แล้วโดยชอบ คือทำให้เป็นหลัก |
| ตั้งไว้แล้ว. |
| บทว่า โน ได้แก่ ของเราทั้งหลาย. |
| บทว่า สวนาย ได้แก่ เพื่ออันฟังไวยากรณ์ปัญหานี้. |
| บทว่า โสตา ได้แก่ โสตินทรีย์. |