๓๑๗    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๓๑๙
         คำว่า  ตุวํ  โน  สตฺถา  ตวมนุตฺตโรสิ  นี้    เป็นเพียงคำชมเชย
เท่านั้น.
         หลายบทว่า  ฉินฺเทว  โน  วิจิกิจฺฉํ  ได้แก่ พระวังคีสะนั้นผู้หมด
ความสงสัยแล้ว    ด้วยความสงสัยในอกุศล    แต่ก็พูดหมายถึงความปริวิตกนั้น
ซึ่งเปรียบดุจความสงสัยนั่นเอง.
         สองบทว่า  พฺรูหิ  เมตํ  ความว่า   ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นศากยะ  พระ-
องค์เป็นผู้ที่ข้าพระองค์ทูลขอแล้ว    เพื่อให้บอกซึ่งสาวกใด    ขอพระองค์จึงตรัส
บอกซึ่งสาวกนั้นแก่ข้าพระองค์   ข้าพระองค์แม้ทุกคน   ปรารถนาจะรู้สาวกนั้น
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า  ผู้มีปัญญาดุจแผ่นดิน  ก็พระองค์เมื่อตรัสบอกอยู่   ก็
จงบอกซึ่งพราหมณ์นั้นผู้ปรินิพพานแล้ว    ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้มีปัญญา
พระองค์ทรงทราบพระเถระนั้นผู้ปรินิพพานแล้ว  ก็จงบอกในท่ามกลางของข้า-
พระองค์ทั้งหลาย คือจงตรัสบอกในท่ามกลางของข้าพระองค์ทุกคน  โดยประการ
ที่ข้าพระองค์ทุกคนจะพึงทราบได้.
         คำว่า  สกฺโกว  เทวานํ  สหสฺสเนตฺโต  นี้   เป็นคำชมเชยเท่านั้น
คำนี้มีอธิบายดังนี้ว่า    ท้าวสักกะผู้มีดวงตาหนึ่งพัน      ผู้มีพระวาจาอันเทพเจ้า
เหล่านั้นรับแล้วโดยเคารพ    ย่อมตรัสในท่ามกลางแห่งเทวดาทั้งหลายฉันใด
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า     พระองค์มีพระวาจาอันข้าพระองค์ทั้งหลายรับแล้ว
ก็จงตรัสในท่ามกลางแห่งข้าพระองค์ทั้งหลายฉันนั้น.
         พระวังคีสะ   เนื้อจะชมเชยพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นแล   เพื่อจะยังความ
เป็นผู้กล่าวให้เกิดขึ้น  จงได้กล่าวคาถาแม้นี้ว่า  เยเกจิ  เป็นต้น.
หน้า ๓๑๘