| พระราชกุมารเหล่านั้นทรงกลัวการระคนด้วยชาติ จึงอยู่ร่วมกันกับพระภคินีของ |
| ตน ๆ พระเจ้าข้า. ดูก่อนอัมพัฏฐะ ครั้งนั้นแล พระเจ้าโอกกากราช ทรงเปล่ง |
| อุทานว่า สกฺยา วต โภ กุมารา ปรมสกฺยา วต โก กุมารา ดังนี้ |
| ความว่า ท่านทั้งหลาย กุมารทั้งหลายเป็นผู้สามารถหนอ กุมารทั้งหลายเป็น |
| ผู้สามารถอย่างยิ่งหนอ. ดูก่อนอัมพัฏฐะ เจ้าสักยะทั้งหลายย่อมปราก ตั้งแต่ |
| ครั้งนั้นเป็นต้นมา และพระเจ้าโอกกากราชนั้นเป็นบรรพบุรุษของเจ้าศากยะ |
| ทั้งหลาย ดังนี้.๑ |
| ครั้นต่อมาพระเชฏฐภคินีของพระกุมารเหล่านั้นได้เป็นโรคเรื้อน. |
| พระวรกายได้ปรากฏเหมือนดอกทองหลาง. พระราชกุมารทั้งหลายทรงดำริว่า |
| พระโรคนี้ย่อมติดต่อแก่ผู้ที่นั่งที่ยืนและบริโภคร่วมกับพระเชษฐภคินีนี้ จึงทูล |
| เชิญพระนางให้เสด็จขึ้นบนรถ ทำเป็นดุจจะไปชมสวน แล้วเสด็จเข้าป่ารับสั่งให้ |
| ขุดบ่อลึกทำเป็นเรือนพลสังเขปใต้พื้นดิน วางพระนางลงในบ่อนั้นพร้อมด้วย |
| ของควรเคี้ยวและควรบริโภค ปิดข้างบนเกลี่ยฝุ่นแล้วเสด็จไป. |
| ก็สมัยนั้น พระราชาพระนามว่า รามะ เป็นโรคเรื้อนถูกพวกสนมและ |
| พวกฟ้อนรำพากันรังเกียจ ทรงสลดพระทัย มอบราชสมบัติให้พระโอรสองค์ |
| ใหญ่เสด็จเข้าป่า เสวยรากไม้และผลไม้ในป่านั้น ไม่ช้าก็หายพระโรค มีพระฉวี |
| ดุจทองคำ เสด็จไปตามที่ต่าง ๆ ทอดพระเนตรเห็นต้นไม้มีโพรงใหญ่ ทรงทำ |
| ความสะอาดโพรงไม้นั้นประมาณ ๑๖ ศอก ภายในโพรงไม้นั้นทรงกระทำ |
| ประตูหน้าต่าง พาดบันไดเสด็จประทับอยู่ในโพรงนั้น. พระองค์ก่อไปที่หลุม |
|