๓๓๘    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๓๔๐
ธิดาของพระเจ้าน้านั้นมาเถิด.  พระกุมารทั้งหลายได้ไปในวันที่พวกนางกษัตริย์
เสด็จไปสรงสนานที่แม่น้ำแล้วกั้นท่าน้ำประกาศชื่อแล้ว   ทรงพาพระราชธิดาที่
พระองค์ปรารถนาแล้ว  ๆ ไป.  เจ้าศากยะทั้งหลายครั้นได้สดับแล้วตรัสว่า  ช่าง
เขาเถิด  พวกกุมารเหล่านั้นก็เป็นพระญาติของพวกเราทั้งนั้น     แล้วทรงนิ่งเสีย.
         เมื่อกษัตริย์ศากยะและโกลิยะกระทำอาวาหมงคลและวิวาหมงคลซึ่งกัน
และกันอย่างนี้  พระวงศ์ก็สืบต่อกันมาจนถึงพระเจ้าสีหหนุ.    พระเจ้าสีหหนุมี
พระราชบุตร  ๕   พระองค์ คือ สุทโธทนะ  ๑   อมิโตทนะ  ๑   โธโตทนะ   ๑
สุกโกทนะ  ๑  สุกโขทนะ ๑. บรรดาพระราชบุตรเหล่านั้นเมื่อพระเจ้าสุทโธทนะ
ครองราชสมบัติ    พระมหาบุรุษผู้บำเพ็ญบารมีจุติจากสวรรค์ชั้นดุสิต   โดยนัย
ที่กล่าวแล้วในนิทานชาดก    ทรงถือปฏิสนธิในพระครรภ์ของพระนางมายาเทวี
ประชาบดีของพระเจ้าสุทโธทนะ       แล้วเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์โดยลำดับ
ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ  ทรงประกาศพระธรรมจักรอันบวร  เสด็จไปกรุง-
กบิลพัสดุ์โดยลำดับ ทรงโปรดพระประยูรญาติมีพระเจ้าสุทโธทนมหาราชเป็นต้น
ให้ทรงตั้งอยู่ในอริยผล   เสด็จจาริกไปยังชนบทแล้วเสด็จกลับมาอีกครั้งประทับ
อยู่  ณ  วัดนิโครธารามในกรุงกบิลพัสดุ์พร้อมด้วยภิกษุ  ๑,๕๐๐  รูป.
         อนึ่งเมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ นิโครธารามนั้น     พวกเจ้า
ศากยะและโกลิยะ   ทะเลาะกันเรื่องน้ำ.   เรื่องเป็นอย่างไร.   เรื่องมีอยู่ว่า    ใน
ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์เเละกรุงโกลิยะทั้งสองนั้นมีแม่น้ำโรหิณีไหลผ่าน.    แม่น้ำ
นั้นบางครั้งก็น้ำน้อย   บางครั้งก็น้ำมาก.   ในเวลาน้ำน้อย   ทั้งเจ้าศากยะทั้งเจ้า-
โกลิยะทำสะพานนำน้ำเพื่อเลี้ยงข้าวเจ้าของตน ๆ.    พวกมนุษย์ของเจ้าทั้งสอง
หน้า ๓๓๙