| ธิดาของพระเจ้าน้านั้นมาเถิด. พระกุมารทั้งหลายได้ไปในวันที่พวกนางกษัตริย์ |
| เสด็จไปสรงสนานที่แม่น้ำแล้วกั้นท่าน้ำประกาศชื่อแล้ว ทรงพาพระราชธิดาที่ |
| พระองค์ปรารถนาแล้ว ๆ ไป. เจ้าศากยะทั้งหลายครั้นได้สดับแล้วตรัสว่า ช่าง |
| เขาเถิด พวกกุมารเหล่านั้นก็เป็นพระญาติของพวกเราทั้งนั้น แล้วทรงนิ่งเสีย. |
| เมื่อกษัตริย์ศากยะและโกลิยะกระทำอาวาหมงคลและวิวาหมงคลซึ่งกัน |
| และกันอย่างนี้ พระวงศ์ก็สืบต่อกันมาจนถึงพระเจ้าสีหหนุ. พระเจ้าสีหหนุมี |
| พระราชบุตร ๕ พระองค์ คือ สุทโธทนะ ๑ อมิโตทนะ ๑ โธโตทนะ ๑ |
| สุกโกทนะ ๑ สุกโขทนะ ๑. บรรดาพระราชบุตรเหล่านั้นเมื่อพระเจ้าสุทโธทนะ |
| ครองราชสมบัติ พระมหาบุรุษผู้บำเพ็ญบารมีจุติจากสวรรค์ชั้นดุสิต โดยนัย |
| ที่กล่าวแล้วในนิทานชาดก ทรงถือปฏิสนธิในพระครรภ์ของพระนางมายาเทวี |
| ประชาบดีของพระเจ้าสุทโธทนะ แล้วเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์โดยลำดับ |
| ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ ทรงประกาศพระธรรมจักรอันบวร เสด็จไปกรุง- |
| กบิลพัสดุ์โดยลำดับ ทรงโปรดพระประยูรญาติมีพระเจ้าสุทโธทนมหาราชเป็นต้น |
| ให้ทรงตั้งอยู่ในอริยผล เสด็จจาริกไปยังชนบทแล้วเสด็จกลับมาอีกครั้งประทับ |
| อยู่ ณ วัดนิโครธารามในกรุงกบิลพัสดุ์พร้อมด้วยภิกษุ ๑,๕๐๐ รูป. |
| อนึ่งเมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ นิโครธารามนั้น พวกเจ้า |
| ศากยะและโกลิยะ ทะเลาะกันเรื่องน้ำ. เรื่องเป็นอย่างไร. เรื่องมีอยู่ว่า ใน |
| ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์เเละกรุงโกลิยะทั้งสองนั้นมีแม่น้ำโรหิณีไหลผ่าน. แม่น้ำ |
| นั้นบางครั้งก็น้ำน้อย บางครั้งก็น้ำมาก. ในเวลาน้ำน้อย ทั้งเจ้าศากยะทั้งเจ้า- |
| โกลิยะทำสะพานนำน้ำเพื่อเลี้ยงข้าวเจ้าของตน ๆ. พวกมนุษย์ของเจ้าทั้งสอง |