| แล้วทรงแสดงความที่กษัตริย์เหล่านั้นเป็นพระญาติกันมาช้านานแล้ว ตรัส |
| มหาวงศ์นี้ กษัตริย์เหล่านั้นทรงเลื่อมใสอย่างยิ่งเมื่อได้ทรงทราบว่า เมื่อก่อน |
| พวกเราก็เป็นพระญาติกัน. แต่นั้นกษัตริย์ทั้งสองวงศ์ได้มอบกุมาร ๕๐๐ คือ |
| กุมารฝ่ายเจ้าศากยะ ๒๕๐ กุมารฝ่ายเจ้าโกลิยะ ๒๕๐ เพื่อเป็นบริวารของ |
| พระผู้มีพระภาคเจ้า. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเห็นบุรพเหตุของกุมารเหล่านั้น |
| จึงตรัสว่า เอถ ภิกฺขโว แปลว่า เธอทั้งหลายจงเป็นภิกษุมาเถิด. ภิกษุ |
| ทั้งหมดเหล่านั้นได้บริขาร ๘ อันเกิดขึ้นด้วยฤทธิ์เหาะไปในอากาศ มายืนถวาย |
| บังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพาภิกษุเหล่านั้นไปป่า |
| มหาวัน. บรรดาภรรยาของภิกษุเหล่านั้นต่างก็พากันส่งข่าวไปให้ทราบ ภิกษุ |
| เหล่านั้นถูกภรรยาเล้าโลมโดยประการต่าง ๆ จึงกระสัน. พระผู้มีพระภาคเจ้า |
| ทรงทราบว่าภิกษุเหล่านั้นกระสัน ทรงประสงค์จะแสดงป่าหิมพานต์ บรรเทา |
| ความกระสันของภิกษุเหล่านั้น ด้วยตรัสกุณาลชาดก ณ ที่นั้น ตรัสว่า |
| ทิฏฺปุพฺโพ โว ภิกฺขเว หิมวา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอเคยเห็น |
| ป่าหิมวันต์หรือ กราบทูลว่า ไม่เคยเห็นพระเจ้าข้า. ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย |
| พวกเธอจงมาดู ทรงนำภิกษุเหล่านั้นไปทางอากาศด้วยฤทธิ์ของพระองค์ ทรง |
| แสดงภูเขาหลายลูกว่า นี้สุวรรณบรรพต นี้รชตพรรพต นี้มณีบรรพต แล้ว |
| ประทับยืนอยู่ ณ พื้นหินอ่อนใกล้สระนกดุเหว่า. แต่นั้นทรงอธิฐานว่า |
| บรรดาสัตว์ดิรัจฉานประเภทสี่เท้าเป็นต้นทั้งหมด จงมาในภูเขาหิมวันตะเถิด |
| นกดุเหว่ามาหลังเพื่อน. พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อจะทรงพรรณนาถึงสัตว์ที่มา |
| โดยชาติ ชื่อ และภาษาจึงทรงแจ้งแก่ภิกษุเหล่านั้นว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย |