๓๔๐    ๔๗.พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖    ๓๔๒
แล้วทรงแสดงความที่กษัตริย์เหล่านั้นเป็นพระญาติกันมาช้านานแล้ว      ตรัส
มหาวงศ์นี้   กษัตริย์เหล่านั้นทรงเลื่อมใสอย่างยิ่งเมื่อได้ทรงทราบว่า  เมื่อก่อน
พวกเราก็เป็นพระญาติกัน.   แต่นั้นกษัตริย์ทั้งสองวงศ์ได้มอบกุมาร  ๕๐๐  คือ
กุมารฝ่ายเจ้าศากยะ  ๒๕๐  กุมารฝ่ายเจ้าโกลิยะ  ๒๕๐   เพื่อเป็นบริวารของ
พระผู้มีพระภาคเจ้า.     พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเห็นบุรพเหตุของกุมารเหล่านั้น
จึงตรัสว่า  เอถ  ภิกฺขโว   แปลว่า   เธอทั้งหลายจงเป็นภิกษุมาเถิด.    ภิกษุ
ทั้งหมดเหล่านั้นได้บริขาร  ๘  อันเกิดขึ้นด้วยฤทธิ์เหาะไปในอากาศ   มายืนถวาย
บังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า.     พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพาภิกษุเหล่านั้นไปป่า
มหาวัน.  บรรดาภรรยาของภิกษุเหล่านั้นต่างก็พากันส่งข่าวไปให้ทราบ   ภิกษุ
เหล่านั้นถูกภรรยาเล้าโลมโดยประการต่าง ๆ  จึงกระสัน.    พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงทราบว่าภิกษุเหล่านั้นกระสัน   ทรงประสงค์จะแสดงป่าหิมพานต์   บรรเทา
ความกระสันของภิกษุเหล่านั้น  ด้วยตรัสกุณาลชาดก  ณ ที่นั้น  ตรัสว่า
ทิฏฺ€ปุพฺโพ  โว  ภิกฺขเว  หิมวา  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  พวกเธอเคยเห็น
ป่าหิมวันต์หรือ  กราบทูลว่า ไม่เคยเห็นพระเจ้าข้า.  ตรัสว่า  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
พวกเธอจงมาดู  ทรงนำภิกษุเหล่านั้นไปทางอากาศด้วยฤทธิ์ของพระองค์  ทรง
แสดงภูเขาหลายลูกว่า  นี้สุวรรณบรรพต  นี้รชตพรรพต  นี้มณีบรรพต  แล้ว
ประทับยืนอยู่  ณ  พื้นหินอ่อนใกล้สระนกดุเหว่า.     แต่นั้นทรงอธิฐานว่า
บรรดาสัตว์ดิรัจฉานประเภทสี่เท้าเป็นต้นทั้งหมด  จงมาในภูเขาหิมวันตะเถิด
นกดุเหว่ามาหลังเพื่อน.     พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อจะทรงพรรณนาถึงสัตว์ที่มา
โดยชาติ  ชื่อ   และภาษาจึงทรงแจ้งแก่ภิกษุเหล่านั้นว่า    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
หน้า ๓๔๑