| นี้หงส์ นี่นกกะเรียน นี้นกจากพราก นี้นกการเวก นี้นกงวงช้าง นี้นก |
| นางนวล. ภิกษุทั้งหลายมีความสงสัยเมื่อเห็นสัตว์เหล่านั้น ได้เห็นนกดุเหว่า |
| ที่มาทีหลังนกทั้งหมด แวดล้อมด้วยนางนกพันตัว จับกลางไม้ที่นางนกสองตัว |
| เอาจะงอยปากคาบพาไป เกิดอัศจรรย์ใจที่ไม่เคยมีมา จึงกราบทูลถามพระผู้มี |
| พระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงเคยเป็น |
| พญานกดุเหว่าอยู่ในที่นี้มิใช่หรือ. ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถูกแล้ว เรา |
| ได้สร้างวงศ์นกดุเหว่าขึ้นมา ตรัสมหากุณาลชาดกครบครันว่า ก็ในอดีตกาล |
| เราทั้งสี่อาศัยอยู่ ณ ที่นี้ คือ นารท ๑ เทวิละ ๑ เป็นฤษี พญาแร้ง ชื่อ |
| อานันทะ ๑ เราเป็นนกดุเหว่าสีเหลืองชื่อปุณณมุขะ ๑. ครั้นภิกษุเหล่านั้นฟัง |
| แล้ว ความกระสันที่เกิดขึ้นเนื่องจากภรรยาเก่าของภิกษุเหล่านั้นก็สงบลง. แต่ |
| นั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสสัจกถาแด่ภิกษุเหล่านั้น เมื่อจบสัจกถา ภิกษุ |
| รูปที่บวชภายหลังได้เป็นพระโสดาบัน รูปที่บวชก่อนทั้งหมดได้เป็นพระ- |
| อนาคามี ไม่มีที่เป็นปุถุชน หรือพระอรหันต์แม้แต่รูปเดียว แต่นั้นพระผู้มี |
| พระภาคเจ้าทรงพาภิกษุเหล่านั้นขึ้นสู่ป่ามหาวันอีกครั้ง. อนึ่ง ภิกษุเหล่านั้น |
| เมื่อมาก็มาด้วยฤทธิ์ของตน ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรมแก่ |
| ภิกษุเหล่านั้นอีก เพื่อประโยชน์แก่มรรคชั้นสูงขึ้นไป. ภิกษุ ๕๐๐ รูปเหล่านั้น |
| เจริญวิปัสสนา ตั้งอยู่ในอรหัตผล. ภิกษุที่บรรลุก่อนได้ไปก่อนทีเดียวด้วย |
| คิดว่า เราจักกราบทูลแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า. ก็ครั้นภิกษุนั้นมาถึงแล้ว จึงกราบ |
| ทูลว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระองค์ย่อมยินดียิ่ง ไม่กระสันอยู่ ดังนี้ |
| แล้ว ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า นั่ง ณ ส่วนข้างหนึ่ง. ภิกษุเหล่านั้น |
| ทั้งหมดมาถึงโดยลำดับ นั่งแวดล้อมพระผู้มีพระภาคเจ้า. |