| ภูเขาจักรวาลด้านทิศตะวันตก ได้ยินเสียง. พรหมองค์ที่สองได้โอกาสบนยอด |
| จักรวาลด้านทิศตะวันตก ประดิษฐานอยู่บนยอดจักรวาลนั้น สดับคาถานั้นจึง |
| ได้กล่าวคาถานี้ว่า ตตฺร ภิกฺขโว สมาทหํสุ ฯเปฯ อินฺทริยานิ รกฺขนฺติ |
| ปณฺฑิตา ความว่า ภิกษุทั้งหลายในที่ประชุมนั้นมั่นคงแล้ว เหมือนสารถีถือ |
| เชือกยืนอยู่ ท่านเป็นบัณฑิตรักษาอินทรีย์ทั้งหลาย. พรหมองค์ที่สามได้โอกาส |
| บนยอดจักรวาลด้านทิศใต้ ประดิษฐานอยู่บนจักรวาลนั้น สดับคาถานั้นแล้วได้ |
| กล่าวคาถานี้ว่า เฉตฺวา ขีลํ เฉตฺวา ปลิฆํ ฯลฯ สุสู นาคา ความว่า |
| ภิกษุเหล่านั้นตัดกิเลสดุจตะปู ตัดกิเลสดุจลิ่ม ตัดกิเลสดุจเสาเขื่อน เป็นผู้ไม่ |
| หวั่นไหว ท่านเป็นผู้หมดจดไม่มีมลทินเที่ยวไป ท่านเป็นพระนาคหนุ่ม มี |
| ดวงตาฝึกฝนดีแล้ว. พรหมองค์ทีสี่ได้โอกาสบนยอดจักรวาลด้านทิศเหนือ |
| ประดิษฐานอยู่บนยอดจักรวาลนั้น สดับคาถานั้นแล้วได้กล่าวคาถานี้ว่า เยเกจิ |
| พุทฺธํ สรณํ คตาเส ฯเปฯ เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺติ ความว่า ชนทั้งหลาย |
| เหล่าใดเหล่าหนึ่งถึงพระพุทธเจ้าว่าเป็นสรณะ ชนทั้งหลายเหล่านั้นจักไม่ถึง |
| อบายภูมิ ละกายของมนุษย์แล้ว จักยังกายเทพให้บริบูรณ์ พรหมที่ประดิษฐาน |
| อยู่ ณ จักรวาลด้านทิศใต้ ได้สดับเสียงของพรหมนั้น. ในครั้งนั้นพรหม |
| สี่องค์เหล่านี้ได้ชื่นชมเชยบริษัท ด้วยประการฉะนี้. มหาพรหมได้ยืนครอบ |
| จักรวาลเป็นอันเดียวกัน. |
| ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรวจดูเทพบริษัทแล้ว ทรงแจ้งแก่ |
| ภิกษุทั้งหลายว่า เยปิ เต ภิกฺขเว อเหสุํ ฯเปฯ เยปิ เต ภิกฺขเว ภวิสฺสนฺติ |
| ฯเปฯ สมฺมาสมฺพุทฺธา ฯเปฯ สนฺนิปติตา ภวิสฺสนฺติ เสยฺยถาปิ มยฺหํ |